See >>>
https://www.facebook.com/100003924471959/posts/2106078009532994/
ผู้คนที่ออกมาประท้วงโควิดในหลายๆประเทศกลางแจ้ง รวมทั้งผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ "ไม่ใส่หน้ากาก" ทำไมจึงไม่มีใครติดโควิด?
และทำไมคนที่ "ใส่หน้ากาก" เดินๆอยู่ก็ล้มลงกลางถนน?
(มารู้ตัวอีกที่ก็สายซะแล้ว) ซึ่งอาการแบบนี้เรียกกันว่า "Happy Hypoxemia"
ซึ่งก็คือ "ภาวะพร่องออกซิเจน" มันจะไม่แสดงออกการล่วงหน้า
ปกติคนทั่วไปไปถ้ามีออกซิเจนในเลือดต่ำ เมื่อสมองรับรู้ ก็จะรับบอกให้ร่างกายเร่งหายใจเร็วขึ้น เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจน อาการที่ออกมา จึงเป็นในรูปแบบหอบ สั่น เหนื่อย หายใจเร็ว บางรายเกิดอาการชักกระตุก
เกิดอะไรขึ้นระหว่างกระบวนการหายใจเข้าและ-ออก?
ขณะที่เราหายใจเข้าเรารับออกซิเจน ไนโตรเจน รวมทั้งก็าซต่างๆเข้าปอด
แค่ตอนที่เราหายใจออก ปอดจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ทิ้งออกไป
ดังนั้นคนที่ใส่หน้ากากพวกเขาจึงหายใจเอาสารพิษของตัวเองกลับเข้าไปในร่างกายของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมากและมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชิ้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
เมื่อออกซิเจนในเสืนเลือดที่สง่งไปเลี้ยงสมองลดลงมากๆ...
โอกาสเกิด "ภาวะพร่องออกซิเจน" จึงเกิดขึ้น🤢🤮🤧🥶
มีผลการวิจัยที่ชี้ว่า"หน้ากาก"ที่ประชาชวนส่วน่ใหญ่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ 100% แต่การใส่หน้ากากนานๆมันจะสกปรก มีแบตทีเรียและเชื้อราจากความชื้นสะสมได้ ซึ่งเชื้อเหล่านี้สามารถลงสู่ปอดได้โดยตรง และยังส่งผลให้ออกซิเจนในเม็ดเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมองลดน้อยลงด้วย (เหลือไม่ถึง 20%)
ขณะนี้ทาง CDC แนะนำให้เราใส่มาสก์ 2 ชั้นอยู่ตลอดเวลา แม้จะอยู่ในบ้านหรือที่ไหนก็ตาม ซึ่งอาจนำไปสู่สาเหตุที่ให้เราติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น...หรืออาจถึงชีวิตเมื่อแบตทีเรียลงสู่ปอด
เรฺ็วๆนี้ ดร. เฟาชิ พูดว่า ทีมงานเขาพบว่า ไวรัสสายพันธ์ใหม่ "เลี่ยงการทดสอบ" เขากำลังบอกให้เรารู้ว่า เราอาจป่วยได้โดยไม่มีอาการ
และไม่สามารถระบุหรือตรวจสอบได้อีกด้วยว่าเราติดไวรัสหรือไม่?
รวมทั้ง PCR TEST ก็ไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างไข้หวัดใหญ่ประจำปี หรือติดไวรัสโควิด-19 กันแน่
ตัวเลขที่เห็นจึงเป็นการเหมารวมทั้งสองรายการไว้ด้วยกัน
(ปกติไข้หวัดใหญ่ในอเมริกา ปี 2019 ตายกันเป็นล้านคน แต่พอโควิดโผล่มาไข้หวัดใหญ่ก็หายไป...?)
ไบเดนบอกว่า "คนที่ไม่ฉีดวัดซีน จะฆ่าคนอื่นๆได้ ให้ไปฉีดซะ"
(คนที่ไม่ฉีดไม่ได้เป็นโควิดสักหน่อย แล้วจะไปติดคนที่ฉีดได้อย่างไร)
วัดซีนทดลองก็ไม่มีประสิทธิภาพ แถมเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยได้อีกต่างหาก มีรายงานจากโรงพบาบาลว่า มีผู้ป่วยกว่า 60% ล้วนฉีดวัคซีนมาแล้วทั้งนั้น
มันเหมือนเรากำลังถูกโกหกหลอกลวงครั้งประวัติศาสตร์ และถูกต้อนให้ไปฉีดวัคซีนเพื่อดัดแปลงพันธุกรรมก็ไม่ผิดนัก
พวกเขากำลังเล่นเกมยื้อ Pandamic ไปเรื่อยๆปีต่อปี เพื่อควบคุมเราและปิดบังการกระทำผิดของพวกเขา และหากการล็อคดาวน์สิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ฝ่าย Cabal ก็จะสิ้นสุดลงในวันนั้น เมื่อการเปิดเผยความจริงเกิดขึ้นต่อสาธารณะชนอย่างกว้างขวาง
Mead
ดูแลสุขภาพให้ดีกันด่วยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น