See >>>
https://www.facebook.com/112136971373318/posts/pfbid02Fjs9uxdFN6XDxPHz2SzFdn2znTGZEVkhv1QPM5VccdhzqzqsKArHdxAL3Q1vca3Ll/
รัสเซีย แย่แล้ว! ยูกานดา แอฟริกา ให้สัปทานเหมืองทองคำ 31 ล้านตัน รวยเละ
ทวีปแอฟริกา มีภูมิรัฐศาสตร์ใกล้ยุโรป จึงถูกชาวตะวันตกยึดเป็นอาณานิคมนานเป็นร้อยปีเพื่อตั้งหน้าตั้งตา กอบโกยแย่งชิงทรัพยากร และสินแร่มีค่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปประชากรแอฟริกา ก็มีจำนวนมากขึ้นจนมีการประกาศอิสระภาพเป็นประเทศต่างๆ ที่ UN รับรองถึง 55 ประเทศ ในช่วงหลังสหรัฐ และยุโรป ได้เพิกเฉยต่อปัญหาในแอฟริกา เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร และปัญหาเงินเฟ้อ ระบบการขนส่ง ท่าเรือ ทำให้สหรัฐ และบริวาร สูญเสียอิทธิพลทางการเมืองทั้งหมดในแอฟริกา นักการเมืองโปรรัสเซีย จีน ชนะเลือกตั้งแทบทั้งหมด
ส่งผลให้ชาติตะวันตกไร้ยุทธศาสตร์ และไร้จุดยืนในแอฟริกา แม้แต่ประเทศแอฟริกาใต้ ยังถูกดึงมาเข้ากลุ่ม BRICS ผงาดทางการค้ายิ่งใหญ่ถึงปัจจุบัน ประเทศแอลบาเนีย ขาใหญ่ทรงอิทธิพลทางอาวุธมากที่สุดก็มาเข้าพวกกับรัสเซีย - จีน เพื่อคานอำนาจกับอิสราเอล โมร็อคโก คู่อริไม้เบื่อไม้เมาตลอดกาล , หลายปีที่ผ่านมานักยุทธศาสตร์ระดับปรมาจารย์อย่างปูติน ผู้นำรัสเซียจึงไม่พลาดโอกาสการเสริมความแข็งแกร่งให้กับอิทธิพลรัสเซียในทวีปแอฟริกาทั้งเศรษฐกิจ อาหาร ฯลฯ โดยแบ่งหน้าที่กับจีนอย่างไร้รอยต่อ ทำให้บารมีผ่องใส ช่วงหลังทั้งสหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ จึงแหยงที่จะรุกรานรังแกชาติในแอฟริกาเหมือนสมัยก่อน
ประเทศยูกันดา อยู่ในแอฟริกา เป็นชาติที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เพิ่งมีข่าวดีจากภูมิภาคทางตะวันตก ที่ติดกับประเทศคองโก เพราะทางการได้ประกาศการค้นพบสายแร่ทองคำ 31 ล้านตันโดยจะสามารถสกัดเป็นทองคำบริสุทธิ์ได้มหาศาลกว่า 320,000 ตัน มูลค่ากว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์ (420 ล้านล้านบาท) หรือกว่า 4 เท่าของ GDP ประจำปีของอินเดีย กลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยในข้ามคืน แต่แม้จะพบแร่ธาตุและโลหะล้ำค่าอยู่ใต้ดินแล้วก็ตาม ปัญหาก็คือการขาดเทคโนโลยีและเงินทุนสำหรับการสกัดทองคำ
แต่สำหรับยูกันดา ปัญหานี้จบไป เมื่อประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนีแห่งยูกันดา เรียกรัสเซียว่า "ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของยุโรป" เขาเป็นคนอ่านเกมส์การเมือง "จัดระเบียบโลกใหม่" ได้อย่างก้าวหน้า ทำให้เขารักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และแสดงการสนับสนุนอย่างแข็งขันในเวทีสหประชาชาติ (EU) ต่อปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน
รัสเซีย คือเจ้าพ่อควบคุมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน อาหาร สินแร่ อันดับต้นของโลกทำให้รัสเซีย เอาชนะใจรัฐบาลยูกันดา ในการเพิ่มเงินทุนสำรองของยูกันดา แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤต รัสเซียจึงสนับสนุนนักลงทุน และให้การสนับสนุนโรงกลั่นทองคำแห่งแรกในยูกันดา โดยบริษัท Victoria Gold Star Limited เจ้าของชาวรัสเซีย มีกำลังการผลิตทองคำดิบ 1.2 ตันต่อเดือน (ผลิตไปได้อีก 22,222 ปี) รัสเซีย คือ ผู้รับสัมปทานเหมืองทองคำในยูกันดามาตลอด สร้างความมั่งคั่งให้รัฐบาล และชาวยูกันดา แถมยังโชคดีได้จีนมาช่วยด้านระบบขนส่ง การบิน ระบบไฟฟ้า
ในช่วงที่ผ่านมา รัสเซียใช้ประโยชน์จากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และใช้ทองคำสำรองจำนวน 140,000 ล้านดอลลาร์ ในเชิงกลยุทธ์เพื่อยึดป้อมปราการทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ "ทองคำเป็นยาอายุวัฒนะสำหรับรัสเซีย" ทำให้ค่าเงินรูเบิล แข็งเกร่งและมีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก นับตั้งแต่รัสเซีย ปลดปล่อยไครเมียออกจากยูเครนในปี 2014 รัสเซียได้ปรับตัวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนให้พ้นจากผลกระทบจากการคว่ำบาตร วิธีหนึ่งที่เหมือนยาวิเศษคือ "การเพิ่มปริมาณสำรองทองคำ" เนื่องจากทองคำมีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าทะยานขึ้นในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้งของโลก ผู้นำรัสเซีย ยังอ่านเกมส์ขาดด้วยว่าชาติตะวันตกไม่สามารถคว่ำบาตรสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ อาหารธัญพืช เมล็ดพืช ปุ๋ย และทองคำ
เหตุเพราะจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระเบียบโลกเก่า ซึ่งความผิดพลาดของสหรัฐ และบริวารก็เป็นดั่งที่รัสเซีย- จีน คาดการณ์และตั้งป้อมรับไว้แล้วนานกว่า 10 ปีนี่คือเหตุผลที่รัสเซีย พร้อมที่จะช่วยเหลือยูกันดา ในความพยายามขุดเหมืองทองคำในอนาคตไปอีกนานกว่า 22,000 ปี และเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานที่มั่นในการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ โดยทวีปแอฟริกา และยูกันดา จะเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของรัสเซีย..ฝ่ายระเบียบโลกเก่าใช้แต่พระเดชอาวุธ แต่ฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่ใช้พระคุณพลังงาน อาหาร สินค้าโภคภัณฑ์ส่งเหล่านี้ถึงมือประชาชนจริงๆ ส่งผลให้บารมีตะวันตกดับสนิทไปแล้วในแอฟริกา เหลือแต่แสงเรืองรองดั่งทองคำของรัสเซีย-จีน..สู้ต่อไป ชนะพวกชอบเอาเปรียบแน่นอน 🥳🤩
ที่มา : Tfiglobalnews , Reuters
#WorldUpdate
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น