See >>>
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0vmMXxSXELy7nX8sQKmjSkZZ6hah5FG96jnD7jfPRr284EvY7QbLVQiKWZkRRvWHol&id=100001757048699
#ใครจะเจ๊งก่อนกัน..?!
#ใครจะเจ๋งกว่ากัน
#อีกไม่นาน..รู้กัน..!!
บทวิเคราะห์
“สถานการณ์โลก”
เดิมพันหายนะ มหาอำนาจเดิม กับมหาอำนาจใหม่
ใครจะครองโลก..?!
หลักระเบียบโลกเก่าคือ "ครองอาหารได้ก็ครองประเทศ ครองพลังงานได้ก็ครองทวีป ครองเงินตราได้ก็ครองโลก"
ที่ผ่านมาชาติตะวันตกพยายามครองทั้ง 3 ส่วน โดยใช้เงินสกุลดอลลาห์ ยูโร ปอนด์ เยน เป็นกลไก
เป็นเครื่องมือครองโลก
แต่เงินตรานั้นเป็นค่าสมมุติที่พิมพ์จำนวนตัวเลขที่ต้องการใส่ลงในกระดาษ ย่อมไร้ค่าแท้จริง
จึงต้องใช้สินแร่หายากคือ "ทองคำ" เป็นตัวเทียบค่า เมื่อชาติใดจะพิมพ์เงินกระดาษออกมารวมเป็นมูลค่าเท่าใดในแต่ละรอบ
ก็จะต้องมีทองคำสำรองมูลค่าเพิ่มขึ้นเทียบเท่ามูลค่าเงินกระดาษ เพื่อทำให้การพิมพ์เงินตราสะท้อนฐานะที่แท้จริงของเงินสกุลนั้น
แต่แล้วสหรัฐ และพวกก็ได้ตั้งกฎระเบียบโลกขึ้นใหม่เพิ่มสำหรับพวกตนว่า
"การพิมพ์เงินตราเพิ่มเข้าระบบ ไม่ต้องมีทองคำในมูลค่านั้น แต่ใช้เอกสารธนาคารกลางรับรองเรียกว่า Quantitative Easing (QE) แทนทองคำ"
ส่งผลให้สหรัฐ และพวกพ้องทำ QE กันยกใหญ่ พิมพ์เงินกระดาษอัดส่งเข้าไปในระบบเงินตราเป็นว่าเล่น ใช้จ่ายกันสนุกมือ
ทำให้ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยมหาศาล
นำเงินที่พิมพ์นั้นแลกเปลี่ยนค่าเป็นสกุลเงินตราท้องถิ่น เช่น จากดอลลาห์ เป็นบาท ฯลฯ
เข้าไปลงทุนได้ทั่วโลก ทั้งซื้อที่ดิน สินทรัพย์ เครื่องจักร อุตสาห กรรม จ้างแรงงาน ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เทคโอเวอร์ซื้อกิจการธนาคาร บริษัทสื่อสาร ฯลฯ
แล้วเรียกคนพวกนี้ว่า "นักลงทุนต่างชาติ" เมื่อลงทุนในต่างแดน เช่น อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ขุดเจาะน้ำมัน ก๊าซ โรงงานสารพัดอย่าง ก็สามารถดูดเงินตราสกุลท้องถิ่นนั้นที่ มีทองคำค้ำประกันแลกเปลี่ยน กลับเป็นค่าเงินสกุลตนเองได้ เช่น บาท เป็นดอลลาห์
ขนกลับประเทศไปแบบ
"จับเสือมือเปล่า"
ขาเข้ามาเอาเงินกระดาษที่พิมพ์เองตามใจชอบมาลงทุน แต่ขากลับไปขนเงินประเทศอื่นที่มีค่าแท้ จริงกว่า แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลตนเอากลับประเทศไป
>เป็นระเบียบโลกที่เอาเปรียบกันมาตลอด<
ช่วงปี 2020 สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ทำ QE พิมพ์เงินกระดาษโดยไม่มีทองคำค้ำประกันแม้สักกรัมเดียว อัดเงินเข้าไปในเศรษฐกิจโลกถึง 775 ล้านล้านบาท หรือ 1 ใน 3 ของ GDP โลก
ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยกว่าชาติอื่นๆ มาตลอด ในดินแดนของคนพวกนี้จึงมีเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพแพงลิ่ว จ่ายค่าจ้างสูง
เพราะพิมพ์เงินใส่ในระบบเศรษฐกิจโดยไม่ต้องทำมาหากินอะไรก็ได้ รวยได้ง่ายๆ งามๆสุขสบายไปทั้งชาติ
จากนั้นก็บังคับให้ชาติอื่นทั่วโลก หันมาใช้เงินตราของตน โดยเรียกว่า
"เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ"
ที่แต่ละชาติจะต้องขนเอาเงินทองของมีค่า ไปแลกซื้อเงินกระดาษที่เป็น ดอลลาห์ ยูโร ปอนด์ สำรองในธนาคารกลางของตนและในชาติตะวันตก
ไว้สำหรับชำระค่าพลัง งานน้ำมัน ก๊าซ สินค้าของภาครัฐและเอกชนผ่านระบบการโอนเงินระหว่างประเทศที่เรียกว่า SWIFT
ทำให้ครอบงำโลกได้ด้วยเงินตราที่พิมพ์ออกมาแบบไร้ทองคำค้ำมูลค่าเงินตรามาตลอด
**แต่รัสเซีย จีน นั้นการพิมพ์เงินแต่ละรอบจะต้องใช้ทองคำสำรองจริงๆ มาค้ำประกัน
จึงมองเห็นความไม่เท่าเทียมนี้ ได้วางแผนร่วมกันมานานกว่า 10 ปี แบ่งหน้าที่ให้จีนผงาดทาง การ ค้าเศรษฐกิจ
รัสเซียผงาดด้านพลังงานและอาวุธ..
แล้วค่อยๆ รุกคืบหาพันธมิตร ที่ถูกชาติตะวันตกกดขี่ เช่น เกาหลีเหนือ ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาไต้ อินเดีย เอเซียกลาง อาเซียนบางชาติ หมู่เกาะต่างๆ
แล้วแบ่งหน้าที่กันสร้าง "พระคุณ" ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจการค้า พัฒนาอาวุธ จนประ เทศเหล่านั้นทรงตัวอยู่ได้ด้วยตนเอง และแข็งแรงจากภายในขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าเกรงขาม เช่น ปากีสถาน มีหัวรบนิว เคลียร์มากถึง 600 หัวรบ
จึงไม่มีชาติตะวันตกใดๆกล้าไปรังแกข่มเหงกดขี่อีกเลย
เมื่ออาหาร พลังงาน เงินตรา ทองคำ อาวุธพร้อมสรรพ วันก่อการปฏิวัติโลกก็มาถึง คือ
**วันที่ 4 ก.พ.65 รัสเซีย-จีน ลงนามสนธิสัญญาร่วมกันกว่า 2,000 ตัวอักษร**
"จัดระเบียบโลกใหม่"
แล้วเปิดฉากถล่มยูเครน เชือดไก่ให้ลิงดู สร้างความแตกแยกในหมู่ NATO และ EU อย่างหนัก จากค่าพลังงานที่สูงลิ่ว ประเทศที่เคยเป็นบริวารสหรัฐ เริ่มเสียงแตกถอยกรูด อิหร่าน ยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพใหญ่สหรัฐในอิรัก และซีเรีย จนย่อยยับวินาศ โดยสหรัฐไม่กล้ายิงสวนกลับ
จีน รุกเข้าตั้งฐานยิงขีปนาวุธที่หมู่เกาะโซโลมอน หน้าประตูบ้านออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามทวีปตกในทะเลญี่ปุ่น
รัสเซีย ประกาศยึดหมู่เกาะคูริล เหนือฮอกไกโด ของญี่ปุ่น ประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แล้วจัดซ้อมรบยิงขีปนาวุธ ยิง
Hypersonic missile ครั้งแรกในโลกใส่เมืองลวิฟ ยูเครนตะวันตก ใกล้โปแลนด์แค่ 20 กม.
แม้แต่ช่วงที่ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ไปปั่นหัวโปแลนด์ และพบกับ รมต.กลาโหมยูเครน
ที่กรุงวอร์ซอร์ กองทัพรัสเซียก็ต้อนรับโดยยิงขีปนาวุธใส่คลังน้ำมัน โรงงานซ่อมขีปนาวุธยูเครน
และคลังอาวุธ NATO ที่ลอบขนจากโปแลนด์มาให้ที่เมืองลวิฟ จน ควันไฟ เสียงระเบิดดังกัมปนาทไปถึงโปแลนด์
ประกาศศักดาว่ารัสเซียสามารถบุกยุโรปได้ทุกเมื่อ
สร้างความหวั่นไหวให้สหรัฐ จนออกมาประกาศบ้างว่าจะ "จัดระเบียบโลกใหม่" โดยมีตนเป็นผู้นำโลก
“แต่คำประกาศครั้งนี้กลับไม่มีใครกลัว”เหมือนช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียแล้ว
เพราะอาวุธของฝ่ายมหาอำนาจใหม่ มีสะสมมากและร้ายแรงกว่าของฝ่ายชาติตะวันตก
รัสเซีย จึงรุกต่อ โดยนับจากวันที่ 1 เม.ย.65 จะรับชำระค่าก๊าซกับ "ชาติที่ไม่เป็นมิตรในบัญชีดำ" เป็นค่าเงินรูเบิ้ลเท่านั้น
โดยธนาคารกลางรัสเซีย เปิดแลกเงินรูเบิลด้วยอัตรา 5,000 รูเบิ้ล/ทองหนึ่งกรัม (คิดเป็นเงินไทยราว 26,400 บาท/ทองคำ 15 กรัม)
ซึ่งเป็นราคาทองคำที่ถูกกว่าท้องตลาดเล็กน้อย โดยรัสเซียจัดโปรโมชั่นลดราคาก๊าซ 25% จากราคาตลาด ตัดหน้าสหรัฐที่แพงกว่าถึง 5 เท่าตัว สำหรับชาติที่ไม่เป็นมิตรต่างๆ จะต้องขน "ทองคำสำรอง" ของแต่ละชาติไปซื้อเงินกระดาษรูเบิ้ลรัสเซียบ้าง
เป็นการย้อนเกร็ดที่
แสบสันต์ ซึ่งชาติพวกนี้ที่ผ่านไม่ค่อยได้ซื้อทองคำมาค้ำประกันค่าเงินของตนเองมานานแล้ว
จึงไม่มีทองคำมากเพียงพอจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซีย
ล่าสุดกลุ่ม G7 (สหรัฐ แคนาดา อังกฤษ เยอร มันนี ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น) มีมติ
"ไม่จ่ายค่าพลังงานกับรัฐเซียเป็นเงินรูเบิ้ล"
นั่นหมายถึงรัสเซีย ที่มีพลังงานและครองยุโรปอยู่ ก็จะต้องตัดจ่ายก๊าซทั้งหมดทันที เพราะผู้ซื้อไม่มีทองคำขนมาแลกเงินตรารูเบิ้ลจากตน
“ขายให้ก็ชักดาบ”อีก..!!!!!!!!
จากนั้นรัสเซีย จะซ้ำโดยจะปิดท่อส่งน้ำมันของตนที่คาซัคสถาน ไม่ให้ไหลไปยุโรป ดันราคาน้ำมันให้ถึง 300 - 500 ดอลลาห์/บาร์เรล
ระงับส่งถ่านหินผลิตไฟฟ้า ระงับส่งแร่ยูเรเนียมสำหรับปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับการผลิตไฟฟ้า ซึ่งรัสเซียรู้ดีว่า
เวลาแค่ไม่เกิน 2 เดือน หายนะครั้งใหญ่ที่สุดจะเกิดกับยุโรป
จากนั้นก็ค่อยพิจารณายิงขีปนาวุธใส่ชาติ "ลูกหนี้ที่เบี้ยวจ่ายค่าพลังงานเป็นรูเบิ้ล" หรือ ประเทศที่ "อายัดเงินรัสเซีย"
ที่รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลีไต้ ด้วย เพื่อซ้ำเติมความตื่นตระหนกเศรษฐกิจชาติพันธมิตรอำนาจเก่าหนักขึ้นอีกเรื่อยๆ
…รื้อระเบียบโลกเก่าที่เอาเปรียบ จัดระเบียบโลกใหม่ที่เป็นธรรม
..มหาสงครามอาหาร พลังงาน เงินตรา อาวุธ
..ฝ่ายใดกระพริบตาคุกเข่าก่อน ก็โดนน็อคยาวเป็นร้อยปี
ขอบคุณที่มา : RT, TNN world , ลงทุนแมน, บทวิเคราะห์สถานการณ์ตามจริง
#WorldUpdate
#Ttango17Q
25 June 2Q22
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น