วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565

😍❤️#ใครจะเจ๊งก่อนกัน..?! #ใครจะเจ๋งกว่ากัน #อีกไม่นาน..รู้กัน..!!

 See >>>

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5077690812299437&id=100001757048699

#ใครจะเจ๊งก่อนกัน..?!

#ใครจะเจ๋งกว่ากัน

#อีกไม่นาน..รู้กัน..!!


#ตำรวจโลกไม่มีอยู่จริง ที่มีอยู่จริงคือมาเฟียที่ใส่เสื้อตำรวจโลก


หลักระเบียบโลกเก่าคือ

"ครองอาหารได้ก็ครองประเทศ ครองพลังงานได้ก็ครองทวีป ครองเงินตราได้ก็ครองโลก" 


ที่ผ่านมาชาติตะวันตกพยายามครองทั้ง 3 ส่วน โดยใช้เงินสกุลดอลลาร์ ยูโรป ปอนด์ เยน เป็นกลไกเครื่องมือครองโลก 


แต่เงินตรานั้นเป็นค่าสมมุติ พิมพ์ตัวเลขตามที่ต้องการใส่กระดาษ ย่อมไร้ค่าแท้จริง จึงใช้สินแร่หายาก "ทองคำ" เป็นตัวเทียบค่าเงิน


เมื่อชาติใดจะพิมพ์เงินกระดาษออกมารวมมูลค่าเท่าใดในแต่ละรอบ จะต้องมีทองคำสำรองมูลค่าเพิ่มขึ้นเทียบเท่ามูลค่าเงินกระดาษ เพื่อให้การพิมพ์เงินตราสะท้อนฐานะที่แท้จริงของเงินสกุลนั้น


แต่แล้วสหรัฐฯและพวกได้ตั้งกฎระเบียบโลกขึ้นใหม่เพิ่มสำหรับพวกตนว่า


"พิมพ์เงินตราเพิ่มเข้าระบบไม่ต้องมีทองคำในมูลค่าได้ โดยใช้เอกสารธนาคารกลางรับรองเรียกว่า Quantitative Easing (QE) แทนทองคำ" 


ส่งผลให้สหรัฐฯและพวกพ้องทำ QE กันยกใหญ่ พิมพ์เงินกระดาษอัดเข้าไปในระบบเงินตราเป็นว่าเล่น ใช้จ่ายกันสนุกมือ

ทำให้ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยมหาศาล 


นำเงินที่พิมพ์นั้นแลกเปลี่ยนค่าเป็นสกุลเงินตราท้องถิ่น เช่น จากดอลลาร์เป็นบาท ฯลฯ เข้าไปลงทุนทั่วโลกทั้งซื้อที่ดิน สินทรัพย์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม จ้างแรงงาน ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เทคโอเวอร์ซื้อกิจการธนาคาร บริษัทสื่อสาร ฯลฯ


เรียกคนพวกนี้ว่า "นักลงทุนต่างชาติ" เมื่อลงทุนในต่างแดน เช่น อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ขุดเจาะน้ำมัน ก๊าซ โรงงานสารพัด จึงสามารถดูดเงินตราสกุลท้องถิ่นนั้นที่

"มีทองคำค้ำประกัน" 


แลกเปลี่ยนกลับเป็นค่าเงินสกุลตนเอง เช่น บาท เป็นดอลลาร์ขนกลับประเทศไปแบบ "จับเสือมือเปล่า"


กล่าวคือ “ขาเข้ามา เอาเงินกระดาษที่พิมพ์เองตามใจชอบมาลงทุน แต่ขากลับไป ขนเงินประเทศอื่นที่มีค่าแท้จริงกว่า แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลตนเอากลับประเทศไป” 

เป็นเกมระเบียบโลกที่เอาเปรียบกันมาตลอด


ช่วงปี 2020  สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ทำ QE พิมพ์เงินกระดาษโดยไม่มีทองคำค้ำประกันแม้สักกรัมเดียว อัดเงินเข้าไปในเศรษฐกิจโลกถึง 775 ล้านล้านบาท หรือ 1 ใน 3 ของ GDP โลก 


ส่งผลให้ประเทศเหล่านี้ร่ำรวยกว่าชาติอื่นๆมาตลอด ในดินแดนพวกนี้จึงเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพแพงลิ่ว จ่ายค่าจ้างสูง นั่นเพราะพิมพ์เงินใส่ในระบบเศรษฐกิจโดยไม่ต้องทำมาหากินอะไรก็รวยได้ง่ายๆ สุขสบายไปทั้งชาติ


จากนั้นก็บังคับให้ชาติอื่นทั่วโลกมาใช้เงินตราของตนโดยเรียกว่า "เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ" ที่แต่ละชาติจะต้องขนเอาเงินทองของมีค่า ไปแลกซื้อเงินกระดาษดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ สำรองในธนาคารกลางของตนและในชาติตะวันตก 


ไว้สำหรับชำระค่าพลังงานน้ำมัน ก๊าซ สินค้าของภาครัฐและเอกชน ทำให้ครอบงำโลกได้ด้วยเงินตราที่พิมพ์ออกมาแบบไร้ทองคำค้ำมูลค่าเงินตรามาตลอด


แต่ประเทศรัสเซีย,จีน นั้นการพิมพ์เงินแต่ละรอบจะต้องใช้ “ทองคำ” สำรองจริงๆมาค้ำ 


จึงมองเห็นความไม่เท่าเทียมนี้ ได้วางแผนร่วมกันมานานกว่า 10 ปี แบ่งหน้าที่ให้จีนผงาดทางการค้าเศรษฐกิจ 


รัสเซียผงาดด้านพลังงานและอาวุธ แล้วค่อยๆ รุกคืบหาพันธมิตรที่ถูกชาติตะวันตกกดขี่กระทำ เช่น เกาหลีเหนือ 


ตะวันออกกลาง ทวีปแอฟริกา อเมริกาใต้ อินเดีย เอเซียกลาง อาเซียนบางชาติ หมู่เกาะต่างๆ


แบ่งหน้าที่กันสร้าง "พระคุณ" ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจการค้า พัฒนาอาวุธ จนประเทศเหล่านั้นทรงตัวอยู่ได้ด้วยตนเอง และแข็งแรงจากภายในขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าเกรงขาม 


เช่น ปากีสถาน มีหัวรบนิวเคลียร์มากถึง 600 หัวรบ จึงไม่มีชาติตะวันตกกล้าไปรังแกข่มเหงกดขี่อีกเลย 


เมื่ออาหาร พลังงาน เงินตรา ทองคำ อาวุธพร้อมสรรพ วันดีเดย์ก่อการปฏิวัติโลกก็มาถึง


วันที่ 4 ก.พ.65 รัสเซีย-จีน ลงนามสนธิสัญญาร่วมกันกว่า 2,000 ตัวอักษร


"จัดระเบียบโลกใหม่" แล้วเปิดฉากถล่มยูเครน เชือดไก่ให้ลิงดู สร้างความแตกแยกในหมู่นาโต้และอียูอย่างหนักจากค่าพลังงานสูงลิ่ว ประเทศที่เคยเป็นบริวารสหรัฐฯ เริ่มเสียงแตกถอยกรูด 


อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพสหรัฐฯใหญ่ในอิรักและซีเรีย จนย่อยยับพังพินาศ โดยสหรัฐฯไม่กล้ายิงสวนกลับ


จีนรุกเข้าตั้งฐานยิงขีปนาวุธที่หมู่เกาะโซโลมอน ประตูบ้านออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ 


เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามทวีปตกในทะเลญี่ปุ่น 


รัสเซียประกาศยึดหมู่เกาะคูริล เหนือเกาะฮอกไกโดญี่ปุ่นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แล้วจัดซ้อมรบยิงขีปนาวุธ ยิง Hypersonic missile ครั้งแรกในโลกใส่เมืองลวิฟ ยูเครนตะวันตก ใกล้โปแลนด์แค่ 20 กม. 


แม้แต่ช่วงที่โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯไปปั่นหัวโปแลนด์ และพบกับ รมต.กลาโหมยูเครน ที่กรุงวอร์ซอร์ กองทัพรัสเซียก็ต้อนรับโดยยิงขีปนาวุธใส่คลังน้ำมัน โรงงานซ่อมขีปนาวุธยูเครน และคลังอาวุธนาโต้ที่ลอบขนจากโปแลนด์มาให้ที่เมืองลวิฟ จนควันไฟเสียงระเบิดดังกัมปนาทไปถึงโปแลนด์ 


ประกาศศักดาว่า “รัสเซียสามารถบุกยุโรปได้ทุกเมื่อ” เหล่านี้สร้างความหวั่นไหวให้สหรัฐฯจนต้องออกมาประกาศบ้างว่า “จะจัดระเบียบโลกใหม่" โดยมีสหรัฐฯเป็นผู้นำโลก 


แต่คำประกาศครั้งนี้กลับไม่มีใครกลัวเหมือนช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียแล้ว เพราะอาวุธของฝ่ายมหาอำนาจใหม่มีสะสมไว้มากและร้ายแรงกว่าของฝ่ายชาติตะวันตก 


รัสเซียไม่รอช้าเดินหมาก รุกต่อ

โดยนับจากวันที่ 1 เม.ย.65 นี้จะรับชำระค่าก๊าซกับ "ชาติที่ไม่เป็นมิตรในบัญชีดำ" เป็นค่าเงินรูเบิ้ลเท่านั้น 


โดยธนาคารกลางรัสเซีย เปิดแลกเงินรูเบิ้ลด้วยอัตรา 5,000 รูเบิ้ล/ทองหนึ่งกรัม คิดเป็นเงินไทยราว 26,400 บาท/ทองคำ 15 กรัม ซึ่งเป็นราคาทองคำที่ถูกกว่าท้องตลาดเล็กน้อย


โดยรัสเซียจัดโปรโมชั่นลดราคาก๊าซ 25% จากราคาตลาด ตัดหน้าสหรัฐฯที่แพงกว่านี้ถึง 5 เท่าตัว ชาติที่ไม่เป็นมิตรต่างๆจะต้องขน "ทองคำสำรอง" ของแต่ละชาติไปซื้อเงินกระดาษรูเบิ้ลรัสเซียบ้าง เป็นการย้อนเกล็ดที่แสบสันต์


ซึ่งชาติพวกนี้ ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ซื้อทองคำค้ำประกันค่าเงินตนเองมานานแล้ว จึงไม่มีทองคำมากเพียงพอจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซีย 


ล่าสุดกลุ่ม G7 สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ เยอรมันนี ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น มีมติ "ไม่จ่ายค่าพลังงานกับรัสเซียเป็นเงินรูเบิ้ล" 


นั่นหมายถึงรัสเซียที่มีพลังงานและครองยุโรปอยู่ จะต้องตัดจ่ายก๊าซทั้งหมดทันที เพราะผู้ซื้อไม่มีทองคำขนมาแลกเงินตรารูเบิ้ลจากตน ถ้าขายให้ก็ชักดาบอีก


จากนั้นรัสเซียจะซ้ำโดยจะปิดท่อส่งน้ำมันของตนที่คาซัคสถานไม่ให้ไหลไปยุโรป ดันราคาน้ำมันให้ถึง 300 - 500 ดอลลาร์/บาร์เรล 


ระงับส่งถ่านหินผลิตไฟฟ้า ระงับส่งแร่ยูเรเนี่ยมสำหรับปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้า 


ซึ่งรัสเซียรู้ดีว่าเวลาแค่ไม่เกิน 2 เดือน หายนะครั้งใหญ่ที่สุดจะเกิดกับยุโรปแน่นอน


จากนั้นจะค่อยพิจารณายิงขีปนาวุธใส่ชาติ "ลูกหนี้ที่เบี้ยวจ่ายค่าพลังงานเป็นรูเบิ้ล" หรือประเทศที่ "อายัดเงินรัสเซีย" 


รวมทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ด้วย เพื่อซ้ำเติมความตื่นตระหนกเศรษฐกิจชาติพันธมิตรอำนาจเก่าหนักขึ้นอีกเรื่อยๆ


รื้อระเบียบโลกเก่าที่เอาเปรียบ จัดระเบียบโลกใหม่ที่เป็นธรรม..!!


มหาสงครามอาหาร พลังงาน เงินตรา อาวุธ ฝ่ายใดกระพริบตาคุกเข่ายอมก่อน จะโดนน็อกยาวเป็นร้อยปี เดิมพันหายนะ ระหว่าง มหาอำนาจเดิม กับ มหาอำนาจใหม่ ใครจะได้ครองโลก?


ที่มา : RT , TNN world , ลงทุนแมน , บทวิเคราะห์สถานการณ์ตามจริง , World Update


#Ttango17Q

Q1 April 2Q22

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น