วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

🤗 #หลุมพรางของความต้องการจะไปมิติที่5และการตรวจสอบการเข้าสู่มิติที่สูงขึ้น

 See >>>

https://www.facebook.com/100000441725223/posts/pfbid02t1VqMmqqxXJTBK4BanjmtpeuCibtz8W81agaGT7m4mjTKe5qiLFgBX9kEoFX6rd8l/?mibextid=Nif5oz



#หลุมพรางของความต้องการจะไปมิติที่5และการตรวจสอบการเข้าสู่มิติที่สูงขึ้น


1.ภัยแฝงที่มาจากภาษาและการตีความความเข้าใจ เช่น

- ไม่ตัดสิน

- ไม่มีผิด ไม่มีถูก

- ฟรีวิลว์ ทำอะไรก็ได้อิสระเสรี

………เป็นต้น   คำเหล่านี้ ความคิดเหล่านี้ เรารับมาจากวัฒนธรรมของฝรั่งในยุคของนิวเอจ หรือพลังงานยุคใหม่ ถ้าเราไม่ระมัดระวัง ไม่ใช้วิจารณญาณโดยถ่องแท้ ก็จะทำให้เกิดผลเสียหายตามมาภายหลัง  เราจึงต้องตั้งคำถาม วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ นั้นๆว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะอะไร อย่างไร ตามดุลพินิจของตนเอง  เพราะมันมีส่วนกระทบกับสังคม ความสงบเรียบร้อยอันดี วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ซึ่งเราอาจลืมนึกถึงกระบวนการทำลายโครงสร้างของสังคมครอบครัวและประเทศให้อ่อนแอผ่านลัทธิ ความเชื่อต่างๆ


2.ภัยแฝงที่มาจากการสร้างสถานการณ์ และการสร้างค่านิยม เช่น

ข้อมูล ข่าวสารจากแดนไกล จากต่างประเทศ จากต่างดาวโดยกลุ่มใหญ่ๆที่ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ เช่นข่าวรีเซ็ตโลก รีเซ็ตการเงิน ข่าวการรับสาส์น  อันเป็นช่องว่างให้เกิดการฉ้อฉล กลโกง หลอกลวง ต้มตุ๋นการลงทุน , ก่อให้เกิดการสร้างค่านิยมใหม่ที่มาจากข่าวสารข้อมูลภายนอก  


รวมทั้งการต้องเกาะกระแสความคิดทิศทางเดียวกัน จนเกิดจิตวิทยาหมู่ขึ้น ทำให้เราขาดความเป็นตัวตนในการแสวงปัญญาด้วยตัวเอง


วิธีการแก้ไขสำหรับข้อนี้ คือการตรวจสอบข้อมูลด้วยความรู้สึกจากตนเอง การขัดเกลาข้อมูลด้วยการนั่งสมาธิ เชื่อมต่อด้วยวิถีภายในจิตวิญญาณอยู่เนืองๆ  


#การตรวจสอบของการเข้าสู่วิถีของมิติที่สูงขึ้น


เราเข้าใจว่า ด้วยข่าวสารของมิติที่5 ทำให้คนมีความสนอกสนใจกันอย่างมาก และอยากหาวิธีการที่จะทำยังไงให้ได้ไปถึงจุดนั้น จึงเกิดการหาข้อมูลกันยกใหญ่ มีที่สอนเปิดคอร์สมากมาย มีคลิป มีเพจ มีเฟส ให้เรียนรู้ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเติมเต็มความรู้ แต่เราลืมไปว่า ตัวเรานั้นคือโรงเรียนที่จะฝึกฝนตัวเองอย่างดี จนป่านนี้ การหาข้อมูลนั้นยังไม่จบสิ้นเลย บางคนวนหาไปตอนนี้น่าจะเกิน 5 ปีแล้ว เลยไม่อยากให้เสียโอกาสในการเข้ามาฝึกด้วยตัวเอง หลังจากที่ได้ผ่านการเรียนรู้ภายนอกมาบ้างแล้ว


มิติที่5 มาจากคลื่นความถี่ของพลังงานบนโลกที่ปรับสูงขึ้น และที่มาพร้อมกับคลื่นพลังงานของจิตใจของมนุษย์ที่สูงขึ้น  มันจะทำให้เราได้พบสภาวะที่เป็นได้เฉพาะตน


การปรับคลื่นความถี่ให้สูงขึ้นมาจากสภาวะทางด้านอารมณ์จิตใจ ตราบใดที่คลื่นสมองยังแสวงหาข้อมูลจากภายนอก มันจะไม่มีเลยที่สมองเราจะว่างเพื่อกลับเข้ามาจูนภายในนั้นคือจิตวิญญาณ

แม้ว่าข้อมูลจะสอนให้เราเบิกบานเพื่อยกความถี่ แต่ถ้าการยกความถี่นั้นเป็นเพื่อต้องการเข้าถึงมิติที่5

มันจะเป็นความเบิกบานที่แห้งแล้ง มันไม่ได้มาจากหัวใจ เพราะเราทำด้วยความหวังผล  พลังงานที่สูงขึ้นต้องมาจากจิตสำนึกที่บริสุทธิ์ ดังนั้น ความหมายของคำว่า การตระหนักรู้ได้ด้วยตัวเองและจิตที่บริสุทธิ์ จึงเป็นกุญแจในการไขเข้าประตูมิติที่5


แม้ว่าเรายังไม่รู้ว่า เรานั้นอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการเลื่อนระดับตรงไหนแล้ว ข้อสังเกตง่ายๆคือการเชื่อมต่อกับจักรวาลได้สำเร็จในบางครั้งบางคราว ซึ่งเราจะรู้ได้โดยตัวเอง หรือโอกาสดีอาจจะมีพยานคนอื่นได้รู้เห็นในความเปลี่ยนแปลงของเราด้วย  เช่นจักรวาลจะมีปฏิกิริยากับเราในรูปแบบต่างๆ  โอกาสของงานเข้ามาหา โอกาสที่มีเงินแบบใช้จ่ายได้สบายๆไม่ขาดมือ มีความสำเร็จในรูปแบบไม่คาดฝัน มีธรรมชาติมาล้อเล่นกับคุณได้ ภาพที่มองเห็นมีการเปลี่ยนไป มีการสื่อสารกันทางจิตวิญญาณได้ ฯลฯ


สำหรับอรอรตอนนี้อาจจะลดการเขียนบทความลง เพราะต้องการหันมาพัฒนาจิตของตัวเองต่อไปเช่นกัน มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมากมาย สังเกตและสงสัย ยังไม่ได้คำตอบ ยกตัวอย่างเช่นว่ามีหลายท่านที่เห็นอณูละอองเล็กมากๆที่เคลื่อนไหวในอากาศเต็มไปหมดในสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่บนท้องฟ้าเราก็มีโอกาสเห็นปราณที่เป็นดั่งเพชรใสๆวิ่งวนอย่างเยอะไปทั่ว แต่สิ่งที่เรายังเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงคือในท้องฟ้า มีความเคลื่อนไหวเหมือนแผ่นน้ำใสๆ เหมือนมีอะไรกั้นเป็นใยบางๆเป็นคลื่นๆ ไหวๆ นอกจากนี้สิ่งที่ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้คือ เวลาค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างมีสติ เหมือนจะเป็นแสงสีม่วงฟุ้งๆเรืองๆอยู่ตรงข้างหน้า หรือแม้แต่ขณะที่กำลังมองอะไรบางอย่างแบบไม่ได้ตั้งใจ เผลอๆ ก็จะเห็นแสงสีม่วงแบบเรืองแสงฟุ้งๆ (อย่าแซวว่าตาบอดสีนะ😅) อันนี้ไม่รู้ว่าคืออะไร  ใครรู้ช่วยบอกที นั่งสมาธิก็ยังน้อยอยู่ ก็ต้องกลับมาทำให้มันเป็นวสี ยังมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้ไปอีกเยอะเลยค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น