See >>>
https://www.facebook.com/share/1B5rjwNsDe/
"#ไทย"🇹🇭 อันดับ 3 ของโลก สแกนจ่ายเงินด้วย QR Code มากที่สุด ปี 2024 (ต่อไป เงินสดจะไร้ค่า)
🎯สำหรับประเทศที่ใช้ QR Code มากที่สุดคือ “จีน” มีผู้ใช้งานในแต่ละเดือนสูงกว่า 67.4% รองลงมาคือ “มาเลเซีย” มีผู้ใช้งานในแต่ละเดือน 66.1% และอันดับ 3 คือ “ไทย” มีผู้ใช้งานในแต่ละเดือน 61.5%
นอกจาก 3 ประเทศดังกล่าวแล้ว ยังมีอีก 2 ชาติจากเอเชียที่ใช้งาน QR Code มากสุดติด 10 อันดับของโลกด้วย นั่นคือ “เวียดนาม” มีผู้ใช้งานในแต่ละเดือน 58.3% และ “ไต้หวัน” มีผู้ใช้งานในแต่ละเดือน 57.4%
💥ไทย🇹🇭#ยืนหนึ่งอาเซียนเรื่องสแกนจ่าย ต่างชาติอึ้ง ทุกพื้นที่มีแต่ QR Code ทุบสถิติ 5,700 ล้านธุรกรรมต่อปี
ปัจจุบันการสแกนจ่ายผ่าน QR Code เป็นเรื่องที่ปกติ ทุก ๆ ร้านค้าต้องมี QR Code ให้ลูกค้าเลือกสแกนชำระเงิน ซึ่งประเทศไทยเองก็ถือเป็นผู้นำกระแสการใช้จ่ายรูปแบบนี้ที่ทำให้การสแกนผ่าน QR Code ขยายตัวเติบโตสูงมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
โดยสาเหตุหลักที่ QR Code ได้รับความนิยมมาจากตู้ ATM ที่มีน้อยในพื้นที่ชนบท และการมาถึงของสมาร์ตโฟนราคาถูก อีกทั้งการชำระเงินด้วย QR Code ยังสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวและการชำระเงินข้ามประเทศ
🎯ประเทศไทย🇹🇭#ครองอันดับ 1 ประเทศที่มีการใช้จ่ายผ่าน QR Code มากที่สุดในอาเซียน ธุรกรรมการชำระเงินผ่าน QR ทาง PromptPay เพิ่มขึ้นจาก 2,500 พันล้านในปี 2565 เป็น 5,700 ล้านในปี 2566 ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย
จากการจัดอันดับจำนวนธุรกรรม (transaction) การชำระเงินผ่าน QR Code โดย Nikkei Asia ในปี 2566 พบว่า
1. ไทย มีจำนวนธุรกรรมสแกนจ่ายมากกว่า 5,700 ล้านธุรกรรม
2. มาเลเซีย มีจำนวนธุรกรรมสแกนจ่ายมากกว่า 2,100 ล้านธุรกรรม
3. อินโดนีเซีย มีจำนวนธุรกรรมสแกนจ่ายมากกว่า 1,600 ล้านธุรกรรม
4. กัมพูชา มีจำนวนธุรกรรมสแกนจ่ายมากกว่า 600 ล้านธุรกรรม
5. สิงคโปร์ มีจำนวนธุรกรรมสแกนจ่ายมากกว่า 400 ล้านธุรกรรม
มาเลเซียเปิดตัวระบบการชำระเงินโมบายแบงกิง DuitNow QR ในปี 2562 จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของระบบนิเวศการชำระเงินดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลของธนาคารกลางมาเลเซีย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีธุรกรรม 1,500 ล้านรายการ รวมมูลค่า 1,370 ล้านริงกิต (320 ล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 64% และ 37% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนในกัมพูชา การชำระเงินผ่าน QR เพิ่มขึ้น 29% ในปี 2566 เป็นประมาณ 601 ล้านธุรกรรม ตามข้อมูลของธนาคารกลาง ซึ่งเพิ่มขึ้น 10 เท่าในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น และเมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาได้เปิดตัวระบบชำระเงินมือถือ Bakong Tourists ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดและส่งเสริมการใช้เงินเรียลกัมพูชา
ส่วนสิงคโปร์เป็นผู้นำในการใช้การชำระเงินดิจิทัล PayNow ซึ่งเปิดตัวในปี 2560 ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ช่วยให้สามารถโอนเงินแบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบนี้ดำเนินการธุรกรรม 437 ล้านรายการ มูลค่ารวม 157,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (120,000 ล้านเหรียญ) ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 41% และ 28% จากปีก่อนหน้า ตามข้อมูลของสมาคมธนาคารในสิงคโปร์
ในเดือนเมษายน 2564 สมาคมได้เชื่อมโยง PayNow กับ PromptPay ของไทย ทำให้ลูกค้ารายย่อยของธนาคารจากทั้งสองประเทศสามารถส่งเงินข้ามพรมแดนได้อย่างปลอดภัย นับเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินแบบทันทีที่คล้ายกันระหว่างประเทศ
อินโดนีเซียก็พบการเพิ่มขึ้นของการชำระเงินผ่าน QR เช่นกัน ตามข้อมูลของธนาคารกลางอินโดนีเซีย ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับรหัส QR แบบรวมของประเทศ QRIS มีการเติบโต 226% เมื่อเทียบกับปีก่อนในไตรมาสที่สี่ของปี 2566 โดยมีผู้ใช้และผู้ค้ารวมกัน 50 ล้านราย
ที่มา Nikkei Asia
#BTbeartai #QRCode #ประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น