See >>>
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02XFFXfa4v4BPmgYM2Qmz676GQBYuZG8Xe2hbGacDgWLy1ACo5VPeUbuCadzGxrocUl&id=100016320129506&mibextid=Nif5oz
https://www.facebook.com/reel/1463870527543105/?mibextid=Nif5oz
# ปัจจุบันยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจ แยกแยะไม่ออก ระหว่าง เหรียญ Crypto Currency กับ Digital Currency
>>เหรียญ(Crypto Currency) ที่ไม่มีสินทรัพย์/ทองคำ ใดๆหนุนหลัง
เหรียญกลุ่มนี้ ออกโดยเอกชน ใครๆก็สามารถ ผลิตออกมาขายในตลาดโซเชี่ยลได้ ราคาซื้อ/ขาย ขึ้นอยู่ที่ความนิยม ชื่อเสียง ของแต่ละเหรียญ ในอนาคตอาจไม่มีราคาซื้อขายเลยก็เป็นได้ และไม่สามารถใช้แทนเงินสดได้
(บางสำนักอาจเรียก Crypto Currency เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล/Digital Assets เช่น เหรียญBit Coin เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ เงินดิจิทัล/Digital Money)
ส่วน เหรียญเงิน Digital
[Digital Money or Digital Currency]
ออกโดยธนาคารกลาง มีชื่อเต็มว่า Central Bank Digital Currency/CBDC
ที่มีทองคำหนุนหลังทุกเหรียญ มีสถานะเป็น Stablecoin..!!(มีค่าเสถียรคงที่)
สำหรับประเทศไทย เงินดิจิทัล ที่ออกโดยธนาคารกลาง แต่เพียงผู้เดียว
คือ เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล
เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเพื่อ ทดแทนเงินกระดาษ ในอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่าง เงินบาทกระดาษ กับ บาทดิจิทัล 1:1
เพื่อใช้ในยุค
“สังคมโลกไร้เงินสด”
(Cashless Society)
ปัจจุบัน ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย ได้ทำ กระเป๋าดิจิทัล ผูกติดกับบัตรประจำตัวประชาชน ไว้เรียบร้อยแล้ว
(ID E-wallet/กระเป๋าเงินดิจิทัลในบัตรประชาชน) เพื่อรองรับสำหรับคนไทย ได้ใช้เงินบาทดิจิทัล ในสังคมโลกไร้เงินสด
เป็นความหมาย เดียวกัน ของคำว่า
กระเป๋าดิจิทัล/Digital Wallet กับ ID E-Wallet
จะเรียกอย่างไร ก็จะอยู่ในความหมายเดียวกัน
ขอบคุณ:ไลน์สแควร์ห้องข่าวไทยในโลกใหม่
#Ttango17Q
1Q April 2Q23
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น