วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567

# ปัจจุบันยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจ แยกแยะไม่ออก ระหว่าง เหรียญ Crypto Currency กับ Digital Currency

 See >>>

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02XFFXfa4v4BPmgYM2Qmz676GQBYuZG8Xe2hbGacDgWLy1ACo5VPeUbuCadzGxrocUl&id=100016320129506&mibextid=Nif5oz



https://www.facebook.com/reel/1463870527543105/?mibextid=Nif5oz

#   ปัจจุบันยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจ แยกแยะไม่ออก ระหว่าง เหรียญ Crypto Currency กับ Digital Currency


>>เหรียญ(Crypto Currency) ที่ไม่มีสินทรัพย์/ทองคำ ใดๆหนุนหลัง


เหรียญกลุ่มนี้ ออกโดยเอกชน ใครๆก็สามารถ ผลิตออกมาขายในตลาดโซเชี่ยลได้ ราคาซื้อ/ขาย ขึ้นอยู่ที่ความนิยม ชื่อเสียง ของแต่ละเหรียญ ในอนาคตอาจไม่มีราคาซื้อขายเลยก็เป็นได้ และไม่สามารถใช้แทนเงินสดได้


(บางสำนักอาจเรียก Crypto Currency เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล/Digital Assets เช่น เหรียญBit Coin เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ เงินดิจิทัล/Digital Money)


ส่วน เหรียญเงิน Digital

[Digital Money or Digital Currency]


ออกโดยธนาคารกลาง มีชื่อเต็มว่า Central Bank Digital Currency/CBDC


ที่มีทองคำหนุนหลังทุกเหรียญ มีสถานะเป็น Stablecoin..!!(มีค่าเสถียรคงที่)


สำหรับประเทศไทย เงินดิจิทัล ที่ออกโดยธนาคารกลาง แต่เพียงผู้เดียว 


คือ เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล


เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเพื่อ ทดแทนเงินกระดาษ ในอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่าง เงินบาทกระดาษ กับ บาทดิจิทัล 1:1


เพื่อใช้ในยุค

“สังคมโลกไร้เงินสด”

(Cashless Society)


ปัจจุบัน ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย ได้ทำ กระเป๋าดิจิทัล ผูกติดกับบัตรประจำตัวประชาชน ไว้เรียบร้อยแล้ว


(ID E-wallet/กระเป๋าเงินดิจิทัลในบัตรประชาชน) เพื่อรองรับสำหรับคนไทย ได้ใช้เงินบาทดิจิทัล ในสังคมโลกไร้เงินสด


เป็นความหมาย เดียวกัน ของคำว่า 


กระเป๋าดิจิทัล/Digital Wallet กับ ID E-Wallet 


จะเรียกอย่างไร ก็จะอยู่ในความหมายเดียวกัน


ขอบคุณ:ไลน์สแควร์ห้องข่าวไทยในโลกใหม่

#Ttango17Q

1Q April 2Q23

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น