🙋สวรรค์บนดินอยู่ที่นี่แล้ว

 See >>>

https://www.facebook.com/100007666594557/posts/2869386163326909/

สวรรค์บนดินอยู่ที่นี่แล้ว

ยุคทองแห่งการตรัสรู้อยู่ที่นี่ แม้ว่าสวรรค์จะเป็นส่วนหนึ่งของเราอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่เคยมีให้บริการอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ตามความเป็นจริง พลังงานนี้แพร่หลายมาก มันได้กลายเป็นอาณัติ โครงสร้างผลึกที่ถือชะตากรรมสำหรับโลกของเรานั้นไม่บุบสลายหลังจากความเสียหายมากมาย พลังงานแห่งความรักที่สวยงามและเบานี้เป็นแผนสำหรับโลกและจักรวาลของเรา

บางครั้งเรียกว่า Aquarian Age หรือ The Fifth Sun เราเข้าสู่ช่วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์นี้ใกล้เข้ามาแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นประตูสู่การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ และในไม่ช้าเราจะสามารถมีความสงบสุขบนโลกได้ แต่มีงานที่ต้องทำ ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงพลังงานเป็นส่วนหนึ่งของสมการ มนุษย์เราเป็นส่วนอื่นของสมการ เราจำเป็นต้องเปิดใช้งานวัตถุแสงของเราและสั่นสะเทือนในความถี่ที่สูงขึ้นเพื่อที่จะร่วมมือกับพลังงานนี้ มันขึ้นอยู่กับเราที่จะลงลึกในตัวตนของเราเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงอาจดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย แต่ยิ่งเราผ่านมันได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

เราต้องมองให้ลึกขึ้น เราต้องรู้สึกลึกขึ้น เราต้องดำเนินชีวิตด้วยความหมายและจุดประสงค์ที่มากขึ้น หากไม่มีส่วนลึกของการเป็นอยู่ของเรา ก็ไม่มีสวรรค์ – มีเพียงชั่วขณะเท่านั้น เวทมนตร์เริ่มต้นเมื่อเราก้าวเข้าสู่ด้านนิรันดร์ของชีวิต เราต้องกลับไปเชื่อมโยงกับธรรมชาติและจิตวิญญาณของธรรมชาติด้วย เมื่อเราทำเช่นนั้น เราจะเรียนรู้วิธีรักษาระบบนิเวศน์ของเรา เราแต่ละคนมีส่วนในการสร้างพลังงานที่ไม่ลงรอยกัน และเราแต่ละคนจะมีส่วนร่วมในการรักษาระบบทั้งหมด ทั้งเล็กและใหญ่

"เราคือตัวแทนการเปลี่ยนแปลง ตัวเร่งปฏิกิริยา และสะพาน"

มีคำสอนทางจิตวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วนนอกเหนือจากวิธีการคำนวณตัวเลขนับไม่ถ้วน แต่เราอาจเริ่มต้นด้วยการยอมรับว่าโลกของเราอยู่ระหว่างการก่อสร้างมาประมาณ 4.5 พันล้านปี จักรวาลที่เรารู้ว่ามีวิวัฒนาการยาวนานกว่าโลกของเรา เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของการพัฒนาตามธรรมชาติของมัน ปัญญาและความอดทนที่ต้องใช้เพื่อทำให้การสร้างสรรค์อันน่าทึ่งนี้บรรลุผลควรถ่อมตัวลงแม้กระทั่งจิตวิญญาณที่เย่อหยิ่งที่สุด เป็นเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดที่จะมีชีวิตอยู่ ในขณะที่เราจัดการกับความยุ่งเหยิงที่เราสร้างขึ้น เราต้องใช้เวลาดูความยิ่งใหญ่อันบริสุทธิ์ของดาวเคราะห์ที่สง่างามใบนี้

เพื่อให้มนุษยชาติมาจุติที่นี่ เราต้องมาถึงในรูปแบบอินทรีย์เพราะพลังงานนี้ถูกสร้างขึ้นและสร้างขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะทำงานภายใต้กฎธรรมชาติของ Gaia เราได้อาศัยอยู่ในร่างกายที่เหมือนสัตว์โดยมีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อให้มีความยืดหยุ่นสูงสุดในการแสดงออกของจิตวิญญาณ การใช้ชีวิตเป็นวิญญาณในร่างกายมนุษย์ออร์แกนิกเป็นสิ่งที่ท้าทายและเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการของเราในฐานะสปีชีส์

นิสัยโดยธรรมชาติสำหรับมนุษยชาตินี้เป็นการต่อสู้และเราได้สร้างกรรม กรรมคือสิ่งที่ไม่เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าหรือแผนการของพระเจ้าสำหรับโลกใบนี้ เราต้องให้อภัยผู้อื่นและตัวเราเองเพื่อความเป็นมนุษย์ของเรา บางครั้งมันก็ค่อนข้างน่าเกลียดและเราได้กลายเป็นโฮสต์สำหรับพลังงานมืดในกระบวนการนี้ด้วย เราสามารถทำได้ตอนนี้ ร่างกายเชิงสาเหตุ DNA และระบบจักระเก็บข้อมูลวิวัฒนาการทั้งหมดที่เราต้องการเพื่อกลับชาติมาเกิดอย่างมีประสิทธิภาพในแต่ละครั้งและไม่ทำซ้ำ หากเราแก้ไขสิ่งต่างๆ ในตอนนี้ เราจะนำการแก้ไขไปสู่จุติต่อไป ดีเอ็นเอเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลง และเราส่งต่อสิ่งนี้ไปยังคนรุ่นหลัง

เราอยู่ในจุดสิ้นสุดของวัฏจักรกรรม ดังนั้นมันจึงเป็นเวลาที่จะล้างกรรมของเราก่อนที่เราจะเข้าสู่วัฏจักรใหม่ นอกจากการล้างกรรมของเราแล้ว เรากำลังเผชิญกับพลังมืดและพลังของนักเล่นกล ซึ่งจะทำให้เราต้องเรียนรู้วิธีอ่านและจัดการกับพลังงานอันละเอียดอ่อนด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก หลายคนที่พยายามลุกขึ้นพบว่าพลังแห่งความมืดจะพยายามขัดขวางความสำเร็จของพวกเขา ความพากเพียรเท่ากับการทะลุทะลวง เราต้องเลิกตกเป็นเหยื่อของพวกขี้กลัว ละครหลายเรื่องกำลังดำเนินไปเมื่อเราตระหนักถึงสิ่งที่จำเป็นต้องละทิ้งจิตสำนึกส่วนรวมของเรา

แม้ว่าจะมีการถกเถียงกันว่ามนุษย์เราวิวัฒนาการมานานแค่ไหนแล้ว แต่ก็ไม่นานนักเมื่อเทียบกับภาพรวม บางคนบอกว่าผ่านไปแล้ว 26,000 ปี บางคนบอกว่ามันมากหรือน้อย อันที่จริง มีแนวโน้มมากกว่าที่มนุษย์จะวิวัฒนาการและตกทอดในช่วงเวลาต่างๆ กันตลอดเวลา ในช่วงเวลานี้ เราสามารถประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้และแก้ไขแนวทางของเราด้วยปัญญาที่สั่งสมมา

"วัฏจักรสร้างสรรค์ของมนุษย์และระยะเวลาการรวมตัวได้มาถึงจุดที่เราต้องเคลียร์อดีตของเราอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับธรรมชาติที่แท้จริงของเรา"

ในขณะที่โลกมีวิวัฒนาการ เราในฐานะการแสดงออกของพระเจ้าก็มีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลาเช่นกัน เราได้พัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ เทคโนโลยีของเรามีวิวัฒนาการมาจนถึงจุดที่เราไม่ต้องใช้พลังงานมากในการเอาชีวิตรอดเหมือนที่เคยทำในสมัยก่อน

แม้ว่าบางครั้งอาจดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น แต่ในที่สุดเราก็มาถึงประตูสวรรค์แล้ว มนุษย์ส่วนใหญ่อย่างท่วมท้นพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่กระบวนทัศน์ใหม่ของสันติภาพและความรัก การใช้ชีวิตที่นี่จะง่ายขึ้นเมื่อเราก้าวต่อไป

"เราอาจเรียกพลังงานใหม่ว่า ยุคทอง ยุค Aquarian มิติที่ห้า หรือดวงอาทิตย์ที่ห้า"

Heaven On Earth Is Here Now

The Golden Age of Enlightenment is here. Although Heaven has truly always been a part of us, it has never been as available as it is now. As a matter of fact, this energy is so prevalent; it has become a mandate. The crystal structures that hold the destiny for our planet are intact after eons of damage. This beautiful, light energy of Love is the plan for our planet and our Universe.

Sometimes referred to as the Aquarian Age or the Fifth Sun, we have entered a time period when this paradigm shift is imminent. This period of time is the gateway to ascension and we will soon be able to enjoy peace on Earth, but there is work to be done. While the energy shift is one part of the equation; we humans are the other part of the equation. We need to activate our light bodies and vibrate in a higher frequency in order to cooperate with this energy. It is up to us to go deep into our being in order to birth the changes. Change can be a bit messy, but the sooner we get through it, the better.

We need to look deeper; we need to feel deeper; we need to live with a greater sense of meaning and purpose. Without going into the depths of our being, there is no Heaven – just the temporal. The magic begins when we step into the eternal side of life. We also need to get back to connecting with nature and the nature spirits. As we do so, we will learn how to heal our ecosphere. Each of us played a part in creating discordant energies and each of us will play a part in the healing of all of the systems – great and small.

"We are the change agents, the catalysts, and the bridge."

There are countless spiritual teachings in addition to countless ways of crunching the numbers, but we may begin by acknowledging that our planet has been under construction for some 4.5 billion years. The Universe as we know it has been evolving even longer than our planet. Upon studying the history of the natural development thereof, the wisdom and patience that it took to bring this amazing creation into fruition should humble even the most arrogant of souls. It is a most amazing time to be alive. While we work through some of the messes we created, we need to take the time to look at the pure splendor of this majestic planet.

In order for humanity to incarnate here, we had to arrive in organic form because this energy is continually being created and re-created. In order to work within the natural laws of Gaia, we have inhabited an animal-like body with a bit of tweaking to allow for the maximum flexibility in expression of spirit. Living as spirit beings in organic human bodies has been challenging and it has been a part of our evolution as a species.

This inherent disposition for humanity has been a struggle and we have created karma. Karma is anything that is not in accordance with God’s will or God’s plan for this planet. We need to forgive others and ourselves for our humanness. It has gotten pretty ugly at times and we have also become hosts for dark energies in the process. We can be done with this now. Our causal bodies, DNA and chakra systems keep all of the evolutionary information we need to reincarnate effectively each time and not repeat things. If we fix things now, we will carry the corrections into subsequent incarnations. DNA changes as we change and we pass this on to future generations.

We are at the end of a karmic cycle, so it follows that it is time to clear up our karma before we move into the new cycle. In addition to clearing up our karma, we are dealing with dark forces and trickster energies, which will require us to learn how to read and deal with subtle energies in a very efficient way. Many who attempt to rise find that dark forces will try to impede their success. Persistence is tantamount to breaking through. We must cease becoming victims of the fear mongers. Many dramas are playing out as we become aware of that which needs to leave our collective consciousness.

While there is debate over how long we as humans have been evolving here, it has not been long in comparison to the big picture. Some say it has been 26,000-years and others say it is more or less. Actually, it is more likely that human like beings have evolved and devolved during varying periods throughout time. During this time period, we can apply what we have learned and correct our course with accumulated wisdom.

"The human creative cycle and integration period have come to a point where we have to rapidly clear up our past and align with our true nature. "

As Earth has evolved, we as expressions of God have also evolved through time. We have evolved physically, mentally, emotionally and spiritually. Our technology has evolved to the point where we don’t have to put as much of our energy into survival as we did in prior times.

Although it may not appear at times to be the case, we are finally at Heaven’s door, the overwhelming majority of humans ready to move into a new paradigm of peace and Love. It is going to get easier to live here as we move on.

"We may refer to the new energy as the Golden Age, the Aquarian Age, the Fifth Dimension, or the Fifth Sun"