วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2565

อังกฤษ ไม่ไหวแล้ว! ไม่สนโลกร้อน เพิ่งจะสำรวจน้ำมันและก๊าซบ้าง แต่ช้าไปแล้ว

 See >>>

https://www.facebook.com/100077775671454/posts/pfbid02i4EAdpM4jbiw5i5HA4bRDfhrhYkps2LZ9p5oVVf2EwGCNvSsk8BuXDjLtoVDhCdBl/



อังกฤษ ไม่ไหวแล้ว! ไม่สนโลกร้อน เพิ่งจะสำรวจน้ำมันและก๊าซบ้าง แต่ช้าไปแล้ว

         เมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน กลาง มิ.ย.2022 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียร่วมการประชุม St. Petersburg International Economic Forum (SPIEF) ครั้งที่ 25 ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย เขากล่าวสุนทรพจน์สวนหนึ่งที่สำคัญมากว่า " วิธีคิดแบบการล่าอาณานิคมจะล้มเหลว ระเบียบโลกเก่าแบบขั้วเดียวไม่หวนกลับมาอีกแล้ว และจะหายไปพร้อมกับสายลม นับตั้งแต่นี้ศูนย์กลางอำนาจโลกแห่งใหม่เกิดขึ้นแล้ว และมีสิทธิที่จะปกป้องระบบของตนเอง ทั้งทางทางเศรษฐกิจ และอำนาจอธิปไตย การเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงจะเกิดในเชิงปฏิวัติ และแปรสัณฐานภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลก ในทางเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยิ่งนี้จะไม่อาจหยุดยั้ง”

        “ความปั่นป่วนจะไม่ปกติทุกอย่างจะไม่เป็นเหมือนเดิม จะไม่ย้อนกลับไปยุคเก่าอีกต่อไป การคว่ำบาตรหวังจะบ่อนทำลายเศรษฐกิจและสังคมของรัสเซีย จะส่งผลร้ายแรงกลับเป็นบูมเมอแรงย้อนไปชาติตะวันตกเองไม่ใช่รัสเซีย พวกเขาหล่านั้นจะเกิดเกิดปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ ผลักดันขั้นวิกฤตของค่าอาหารที่ราคาพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ค่าไฟฟ้า และเชื้อเพลิงที่ราคาแพงขึ้น และทำให้คุณภาพชีวิตของชาวตะวันตกเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหภาพยุโรป จะสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางการเมืองไปโดยสิ้นเชิง ชนชั้นสูงที่เดินไปตามหลังคนอื่น จะก่อให้เกิดอันตรายต่อประชากรและเศรษฐกิจของพวกเขาเอง พลเมืองของสหภาพยุโรป จะต้องจ่ายราคาสำหรับ "การตัดสินใจที่ละทิ้งจากความเป็นจริงและขัดกับสำนึกพื้นฐาน" 

        "ยุโรปจะสูญเสียโดยตรงจากการคว่ำบาตรเพียงอย่างเดียวเกิน 400,000 ล้านดอลลาร์ (14.4 ล้านล้านบาท) ในหนึ่งปี" โดยที่ยังไม่นับความสูญเสียอื่นๆ ราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อจะเป็นภัยต่อยุโรปเอง "เป็น ความโง่เขลาของพวกเขาเอง อย่าโทษตัวเรา จงโทษตัวเอง” การคว่ำบาตรรัสเซีย "จะทวีความไม่เท่าเทียมกันและความแตกแยกในสังคมของยุโรป ในแง่สวัสดิการ ค่านิยมและทิศทางของสังคม ย่อมนำไปสู่กระแสประชาชน การเติบโตของขบวนการหัวรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" ท้ายสุดจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจที่ร้ายแรง นำไปสู่ความเสื่อมโทรมในอนาคตอันใกล้นี้ "จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของชนชั้นสูงทางอำนาจ" นี่คือ "หมอดูปูติน" ผู้มาก่อนกาลเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ในยุโรปล่วงหน้านานเกือบ 3 เดือน

         ผลจากสหราชอาณาจักร บริวารมือขวาสหรัฐ คว่ำบาตรรัสเซีย สิ่งที่ปูตินกล่าวสุนทรพจน์จึงแม่นยำปาน "หมอดูตาทิพย์" เกิดอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรเดือน ก.ค. ที่ 10.1% สูงสุดในรอบ 40 ปี ค่าเงินปอนด์ อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 37 ปี , ล่าสุดนายกรัฐมนตรีลิส ทรัสส์ แห่งอังกฤษ ทวีตข้อความทางโซเชียลว่า "คนทั้งประเทศจะกังวลอย่างมากกับข่าวจากพระราชวังบักกิงแฮม" , จากนั้นเธอแถลงแผนการลดค่าครองชีพในชาติ จะทำให้รัฐบาลต้องควักเงินคลังที่หร่อยหรอจ่ายเกือบ 15,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 540,000 ล้านบาท) เพื่อเยียวยาบรรเทาทุกข์จากค่าพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น "หวังจะหลีกเลี่ยงความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล" รัฐบาลอังกฤษ ยังตัดสินใจ "ละทิ้งนโยบายลดโลกร้อน ละทิ้งมาตรฐานเครดิตคาร์บอน" โดยจะประกาศใบอนุญาตสำรวจน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนืออาจถึงราว 130 ฉบับ เพื่อพยายามกระตุ้นการผลิตพลังงานในประเทศ 

        และยังจะฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ แต่สิ่งนี้ช้าไปเสียแล้ว เพราะจากเริ่มได้ใบอนุญาตสำรวจ จนกระทั่งน้ำมันและก๊าซถูกผลิตขึ้นจากแหล่งที่ขุดเจอจะใช้เวลานานถึง 5 - 10 ปี ซึ่งช้าเกินไปไม่ทันแก้ไขอะไรตอนนี้ได้แล้ว ไม่ช่วยลดค่าไฟในระยะสั้นที่แพงขึ้นไปแล้ว 10 เท่าจากฐานเดิม ที่ทำให้ครัวเรือนชาวอังกฤษต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละหลักแสนบาทไทย..ดูเหมือนหน้าปกนิตยสาร The Economist ที่ทรงอิทธิพลจะบอกเล่าภาพสังคมอังกฤษต่อจากหมอดูปูตินไว้แล้วว่า "เละยับเยินสุดๆ" ใกล้ชนะมากแล้ว ทนคว่ำบาตรรัสเซียอีกสักหน่อย..สู้ต่อไป ชนะเสียศูนย์แน่นอน 🤭😂


ที่มา : cgtn , reuters , RT news , The Economist

#WorldUpdate

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น