See >>>
https://www.facebook.com/100077775671454/posts/pfbid02C87gViF7xx533GsEfphs1bCaThzvsmRRSNRD9kfbNRGHGBAYVkmVwtCxPcsSRktLl/
เมียนมาร์ ซบรัสเซียแล้วนะ! จับมือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นำเข้าน้ำมันราคาถูก
เมื่อฝ่ายระเบียบโลกเก่า ที่นำโดยสหรัฐ ยึดปล้นเงินฝากธนาคารกระทรวงการคลังเมียนมาร์ แอบไปฝากไว้ 1,000 ล้านดอลลาร์ สมัยรัฐบาลนางซูจี ทั้งที่รู้กันทั้งโลกว่าชาติไหนที่เอาทองคำหรือเงินไปฝากธนาคารสหรัฐไว้จะขาดความน่าเชื่อถือ มีความเสี่ยงสูงสุดวันดีคืนร้ายจะถูกยึดปล้นไปดื้อๆ โดยอ้างแสนง่ายดายว่าไม่เป็นประชาธิปไตยแค่นั้นก็จบเลย แม้จะทวงในที่ประชุมสหประชาชาติก็จะไม่มีวันได้คืนอีกแล้ว นั่นเท่ากับผลักใสให้รัฐบาลใหม่เมียนมาร์ไปซบฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่ที่เป็นธรรม รัสเซีย - จีน ที่ไม่ก้าวก่ายและให้เกียรติระบอบการปกครองภายในแต่ละชาติตามประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
ในปี 2022 นี้ จะครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างรัสเซีย และเมียนมาร์ ที่เป็นผู้นำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารจากรัสเซียเป็นหลัก ต้นเดือน ก.ย.2022 พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ และนายกรัฐมนตรีสหภาพเมียนมาร์ เดินทางไปเข้าร่วมประชุม Eastern Economic Forum (EEF) ประจำปี 2022 ที่เมืองวลาดิวอสตอค ตะวันออกของรัสเซีย เขาเข้าพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เป็นครั้งแรกตั้งแต่เมียนมาร์จัดตั้งรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยผู้นำเมียนมาได้ยกย่องชื่นชมผู้นำรัสเซียว่ามีบทบาทเป็นผู้นำโลกในการสร้างเสถียรภาพในระดับนานาชาติ ทั้ง 2 ประเทศได้หารือยกระดับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นไปอีกในความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าอย่างกว้างขวาง พร้อมจะยกระดับไปสู่ธุรกิจภารการท่องเที่ยว และอื่นๆ ต่อไป
มีการทำข้อตกลงในการซื้อ-ขายน้ำมัน ได้ของทันทีหลังงานประชุม ผู้นำเมียนมาร์ยินดีที่จะชำระค่าน้ำมันด้วยเงินรูเบิล หรือสกุลเงินอื่นๆ ที่ทางรัสเซียรับได้ ทำให้การซื้อขายง่ายกับทั้งสองฝ่าย โดยทางเมียนมาร์ต้องการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงในราคาประหยัด เพราะประเทศกำลังขาดแคลนพลังงาน ส่วนรัสเซียก็กำลังมองหาตลาดส่งออกน้ำมันใหม่ๆ กับประเทศที่เป็นมิตร การเจรจาจึง Win-Win เป็นไปด้วยดีทางรัสเซียพร้อมจัดส่งน้ำมันทางเรือขนส่งออกได้ทันที เรื่องเงินเรื่องเล็กค่อยชำระในภายหลัง , ด้านบริษัท Rosatom รัฐวิสาหกิจของรัสเซีย ทำธุรกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ของโลก และเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ผลิตไฟฟ้าได้ 20.28% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในรัสเซีย
นายอเล็กซี ลิคาเชฟ ผู้บริหาร Rosatom ฝ่ายรัสเซีย ได้ลงนามความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในปี 2565 - 2566 กับเมียว เต็ง จ่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมียนมาร์ , ตอง ฮัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไฟฟ้าแห่งเมียนมาร์ โดยมีผู้นำเมียนมาร์เป็นสักขีพยาน เพื่อดำเนินโครงการเครื่องปฏิกรณ์แบบแยกส่วนขนาดเล็กในเมียนมาร์ ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากรและงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการยอมรับพลังงานนิวเคลียร์ของสาธารณชนในเมียนมาร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภาคการผลิตไฟฟ้าของเมียนมาร์
นับแต่นี้ไปเมียนมาร์ เดินหน้าอย่างเดียวไม่อาจหวนคืนกลับได้อีกแล้ว เพราะถ้ารัสเซีย ไปลงทุนธุรกิจที่ใด เขาจะมีแพ็คเกจมาด้วย ทั้งส่งมอบเครื่องบินรบจู่โจม Su มาล่วงหน้าแล้ว และจะตามมาด้วยระบบต่อต้านอากาศยาน การลงทุนอุตสาหกรรมหนัก สายการบิน จำนวนนักลงทุนและนักท่องเที่ยวรัสเซีย การเงินการธนาคาร ระบบชำระเงินรูเบิล ฯลฯ จะหลั่งไหลมาเมียนมาร์ปานห่าฝน โดยแท็กทีมกับจีนเพื่อบล็อคยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิค ของสหรัฐ เป็นสัญญาณว่าชนกลุ่มน้อยติดอาวุธแนวชายแดนไทยที่ยังต่อสู้รัฐบาลเมียนมาร์โดนจัดหนักแน่..อาเซียน จะปลอดภัยเพียงยึดหลักไม่ยุ่งเกี่ยวแทรกแซงกิจการภายในเมียนมาร์เท่านั้น แต่มุ่งขยายการค้าต่อกันลูกเดียว..สู้ต่อไป ชนะพวกปล้นเงินคลังชาติอื่นแน่นอน 🤗🤭😁
ที่มา : TASS News, Aljazeera , The Diplomat
#WorldUpdate

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น