See >>>
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02zwkFWAFaWfKz5a8LXkC3VeJueB5kMeotMpZWxyxuzDfFcH2rAUE5HFkuYJRHSz4Dl&id=100001757048699&mibextid=Nif5oz
อีกครั้งในความหมาย ที่ FC ร้องขอมา..?!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ปัจจุบันยังมีคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ไม่เข้าใจ แยกแยะไม่ออก ระหว่าง เหรียญ Crypto Currency กับ Digital Currency
>>เหรียญ(Crypto Currency) ที่ไม่มีสินทรัพย์/ทองคำ ใดๆหนุนหลัง
เหรียญกลุ่มนี้ ออกโดยเอกชน ใครๆก็สามารถ ผลิตออกมาขายในตลาดโซเชี่ยลได้ ราคาซื้อ/ขาย ขึ้นอยู่ที่ความนิยม ชื่อเสียง ของแต่ละเหรียญ ในอนาคตอาจไม่มีราคาซื้อขายเลยก็เป็นได้ และไม่สามารถใช้แทนเงินสดได้
(บางสำนักอาจเรียก Crypto Currency เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล/Digital Assets เช่น เหรียญBit Coin เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ เงินดิจิทัล/Digital Money)
ส่วน เหรียญเงิน Digital
[Digital Money or Digital Currency]
ออกโดยธนาคารกลาง มีชื่อเต็มว่า Central Bank Digital Currency/CBDC
ที่มีทองคำหนุนหลังทุกเหรียญ มีสถานะเป็น Stablecoin..!!(มีค่าเสถียรคงที่)
สำหรับประเทศไทย เงินดิจิทัล ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เพียงผู้เดียว
คือ เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล
เหรียญอินทนนท์/บาทดิจิทัล ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาเพื่อ ทดแทนเงินกระดาษ ในอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่าง เงินบาทกระดาษ กับ บาทดิจิทัล 1:1
เพื่อใช้ในยุค
“สังคมโลกไร้เงินสด”
(Cashless Society)
ปัจจุบัน ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย ได้ทำ กระเป๋าดิจิทัล ผูกติดกับบัตรประจำตัวประชาชน ไว้เรียบร้อยแล้ว
(ID E-wallet/กระเป๋าเงินดิจิทัลในบัตรประชาชน) เพื่อรองรับสำหรับคนไทย ได้ใช้เงินบาทดิจิทัล ในสังคมโลกไร้เงินสด
เป็นความหมาย เดียวกัน ของคำว่า
กระเป๋าดิจิทัล/Digital Wallet กับ ID E-Wallet
จะเรียกอย่างไร ก็จะอยู่ในความหมายเดียวกัน..!!
โปรดจําไว้ว่า: Crypto Currency ไม่มีอะไรมากกว่าแค่ตัวเลขในหน่วยความจําคอมพิวเตอร์ /ไม่ใช่เงินดิจิทัล..!!
>>ไม่มีหลักทรัพย์/สินทรัพย์ หรือทองคำใดๆ ค้ำประกัน<<
#ซึ่งต่างกันกับ Digital Currency ที่ออกโดยธนาคารกลางทุกประเทศแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
(Central Bank Digital Currency/CBDC)
มีสินทรัพย์/ทองคำ ค้ำประกันทุกเหรียญ หรือที่เราเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า “เงินดิจิทัล”
ขอบคุณ: สำนักสื่อสาร N F T E A S Y
#Ttango17Q
14 April 2Q23
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น