See >>>
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0Bg7azo6h4WfztjFwQrDYCbpsYJMmFnU31hceqLXeQY1TgcVhtCmdDqcj3fP9AX1El&id=100001757048699&mibextid=Nif5oz
CeFi VS DeFi อนาคตโลกการเงินที่ทุกคนควรรู้
CeFi คืออะไร?
CeFi ย่อมาจากคำว่า Centralized Finance (CeFi) หมายถึง ระบบการเงินเเบบรวมศูนย์หรือรวมอำนาจ ซึ่งก็คือกระบวนการทางการเงินที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวิธีที่เก่าเเก่ สามารถย้อนได้ถึงยุคอารยธรรมเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ที่มนุษยชาติเริ่มมีการเเลกเปลี่ยนโดยใช้สิ่งต่าง ๆ เเทนมูลค่า
ไม่ว่าจะเป็นปศุสัตว์ เปลือกหอย เเร่มีค่า จนมาถึงสกุลเงิน โดยในอดีตได้มีการหาทางทำให้เงินที่จะเป็นค่ากลางในการเเลกเปลี่ยนนั้นสมดุลเเละมั่นคง
จึงได้ข้อสรุปว่าต้องมีหน่วยงานคอยบริหารการเงิน ซึ่งในจุดนี้อาจเป็นการที่มีรัฐบาลหนุนค่าเงินนั้นอยู่ เช่นเหรียญจักรวรรดิโรมัน ที่ใช้เป็นค่ากลางในการเเลกเปลี่ยนทั่วอาณาจักร รวมถึงบริเวณใกล้เคียง
ในปัจจุบันผู้ที่ทำหน้าที่นี้คือธนาคารเเละสถาบันทางการเงินต่าง ๆ เเละสกุลเงินที่เราให้ความเชื่อมั่นคือดอลลาร์สหรัฐ ในกรณีของการเทรดโทเคน
CeFi ก็คือการจำลองระบบเเบบปัจจุบัน (TradFi) เเต่โฟกัสไปที่สินทรัพย์ดิจิทัลเเละบล็อกเชนที่สร้างมันขึ้น เช่น Stablecoin เเละอื่น ๆ ที่ยังคงมีผู้กุมอำนาจเหนือกว่าเเละเป็นศูนย์รวม
DeFi คืออะไร?
DeFi ย่อมาจากคำว่า Decentralized Finance คือ การเงินเเบบกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นเเนวคิดรูปเเบบใหม่ที่สามารถทำได้จริงเเล้วผ่านการใช้ระบบบล็อกเชนเพื่อกำจัดการรวมศูนย์ไม่ให้มี บุคคลหรือองค์กรมีอำนาจในการควบคุมการเงินในจุด ๆ เดียว
โดยที่ผู้ดูเเลระบบจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของตน รวมถึงทุกคนที่มีส่วนร่วมอยู่ในระบบบล็อกเชนล้วนเเล้วเเต่มีสิทธิที่จะกำหนดทิศทางของเครือข่ายได้
ข้อเปรียบเทียบข้อเเตกต่างระหว่างสองระบบ CeFi (เเบบดั้งเดิม) DeFi (เเบบใหม่)
CeFi มีตัวกลางคอยจัดการ Transaction
ส่วน DeFi ไม่มีตัวกลางควบคุม จึงทำให้ลดค่าใช้จ่าย
ข้อมูลอยู่ในระบบส่วนตัว เเละปิดเป็นความลับ ข้อมูลเปิดเผยไม่มีการปกปิด
ใช้โครงสร้างทางการเงินรูปเเบบเดิม โครงสร้างอยู่บนบล็อกเชน เเทบไม่ต้องใช้คน
#สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา
CeFi VS DeFi อนาคตโลกการเงินที่ทุกคนควรรู้
Source: LinkedIn
ทำไม DeFi ถึงมาเเรงในยุคนี้
ในหลายปีมานี้นับตั้งเเต่การถือกำเนิดของคริปโทฯ เหรียญต่าง ๆ พร้อมกับเครือข่ายบล็อกเชน ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการทำธุรกรรมเเบบ DeFi มากยิ่งขึ้น
เพราะว่ามีความสะดวกเเละคล่องตัวมากกว่าเเบบดั้งเดิม รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายที่ผู้ทำธุรกรรมต้องเผชิญ ตัดปัญหาด้านความโปร่งใส่เเละปัญหาจากคนกลาง เช่นการทุจริต
อีกทั้ง DeFi ยังสามารถทำ Atomicity ได้ หมายความว่าภายใน
1Transaction สามารถมีกิจกรรมย่อยได้หลายอย่าง
หากมีกิจกรรมย่อยใดล้มเหลวขึ้นมาจะทำให้ทั้ง Transaction ล้มตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรม มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพราะว่าคำสั่งจะต้องถูกต้องทั้งหมดถึงจะเเสดงผลในระบบ
DeFi เเละ CeFi ในปัจจุบันและชีวิตประจำวัน
ในปัจจุบัน ส่วนมากเราจะพบเจอกับ CeFi (หรือจะเรียก TradFi ก็ได้) เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการฝากเงิน โอนเงินล้วนเเล้วเเต่ต้องผ่านธนาคารทั้งสิ้น เเละยังไม่มีท่าทีที่เราจะต้องย้ายระบบไปสู่ DeFi ในเร็ววันนี้ ทำให้ในหลาย ๆ ประเทศ CeFi ยังคงเป็นที่ยึดมั่นเเละนิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ในขณะที่ DeFi ในประเทศไทยอาจยังพบได้ไม่มากเท่าประเทศที่มีการเปิดรับ DeFi เเล้ว
อนาคตของ CeFi เเละ DeFi จะเป็นอย่างไร?
แม้ว่า DeFi จะมีสรรพคุณมากมายเเต่ก็ไม่สามารถนำมาเเทนที่กับระบบดั้งเดิมได้ ระบบเดิมนั้นจะยังคงอยู่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม นั่นเป็นเพราะวิธีที่ดีที่สุดคือ ทั้งสองระบบจำเป็นต้อง อยู่ร่วมกันจะขาดระบบใดระบบหนึ่งไม่ได้ [มีอ้างอืง]
เเละก็ไม่ใช่ว่า CeFi เเละ TradFi จะกลายเป็นของไร้ค่าไปสักทีเดียว เพราะบางอย่างที่ทั้งสองมี DeFi ก็ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เช่นกรณีถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือโจรกรรมสินทรัพย์
ใน DeFi นั้นเราไม่สามารถกู้คืนได้เลย เเต่ถ้าเกิดขึ้นกับระบบเก่าเช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงินนั้นอาจจะมีมาตรการชดเชยเงินส่วนที่หายไปให้คุณอย่างเเน่นอน เพราะเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องเก็บรักษาสินทรัพย์ของคุณ
ดังนั้น ในอนาคตที่จะถึงนั้นเราอาจจะเห็นบทบาทของสถาบันทางการเงินต่าง ๆ ลดลงไปจากปัจจุบัน เเละผู้คนหันมาใช้ DeFi มากยิ่งขึ้น
ทั้งสองระบบจะยังคงอยู่เเละปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันต่อไปอย่างน้อย ๆ ก็อีกหลายสิบปีเพราะในขณะนี้ก็ยังไม่มีเเนวคิดหรือเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาล้มล้างวิธีการเหล่านี้
Source:
https://www.finnomena.com/bitkub/cefi-vs-defi/?fbclid=IwAR1tw0xPPiGLIiPbrnTDMyLZQdT1FjG7POku7aytB_4Fob3fWxR8ZTNZoos_aem_AcT3KrRwfdpiuXj8-NMIS90rmzsqJmYLYv67V3MmeBst2_ZPpvKlIqannjIaGNv1DpE
#Ttango17Q
27 March 2Q24
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น