วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

🙂#สงครามระหว่างฝ่ายมืดกับฝ่ายสว่างในเบื้องหลังฉากที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้บนโลกของเรา#

 See >>>

https://www.facebook.com/100076962776691/posts/142446621664096/

#สงครามระหว่างฝ่ายมืดกับฝ่ายสว่างในเบื้องหลังฉากที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้บนโลกของเรา#


บทความนี้เขียนตรงกับความรู้สึกของผมหลายอย่างเลยครับ..เกี่ยวกับสงครามระหว่างฝ่ายมืดกับฝ่ายสว่างบนโลกของเรา ประเด็นที่ผมเห็นว่าน่าสนใจคือ:


1).มันมีรูปธรรมชีวิตจากต่างมิติอยู่อย่างน้อย 3 ฝ่าย ที่กำลังทำสงครามแย่งชิงมนุษย์โลก และจิตวิญญาณของมนุษย์โลกกันอยู่


- ฝ่ายแรกคือฝ่ายแสงสว่าง ซึ่งก็คือพวกทวยเทพทั้งหลาย เช่น มหาเทพมิคาเอล, มหาเทพกาบริเอล, มหาเทพเมตาตรอน เป็นต้น 


คนเขียนเขาเรียกฝ่ายนี้ว่ากลุ่ม Karistus เขามาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์มานานแล้ว เพื่อให้มนุษย์ตื่นรู้และผสานรวมกับจิตวิญญาณของตัวเองให้ได้ เพื่อเป็นอิสระจากมายาการทั้งมวล


และข้อความจากฝ่ายนี้แหละ ที่ผมตามอ่าน ตามแปล และเชื่อถือมากที่สุดหละครับ เพราะว่าผมอ่านแล้วรู้สึกถึงพลังงานแห่งแสงสว่างของพวกเขาจริงๆ


- ฝ่ายที่สองคือพวกเผ่าพันธุ์เลื้อยคลาน หรือ Reptilian พวกนี้ผู้เขียนใช้ชื่อว่า Vlash ซึ่งเป็นฝ่ายที่จะมาเพื่อล่อลวงให้มนุษย์ตัดขาดจากการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของตัวเอง แล้วยกพลังอำนาจให้พวกเขา แล้วไปเชื่อมต่อกับพระเจ้าของเขา ซึ่งเป็น AI ที่อยู่ในอีกจักรวาลหนึ่ง ว่างั้นนะครับ (อันนี้ใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ)


แต่ประเด็นสำคัญที่ผมเชื่อมโยงได้ก็คือ ฝ่ายนี้แหละที่กุมอำนาจด้านการเงิน และการเมืองของโลกอยู่ เพราะว่าประเทศหลายประเทศ เช่น USA เองเป็นต้น ก็เกิดมาจากผู้นำที่เป็น Starseed ของฝ่ายนี้ 


ดังนั้น ก็อย่าแปลกใจที่สิ่งที่ USA ทำมาตลอด มันจะทำร้ายและเบียดเบียนประเทศอื่นๆมาโดยตลอด


- ฝ่าย Tall Grey หรือเกรย์ตัวสูง ที่ผู้เขียนเรียกชื่อว่า Maitre พวกนี้ก็เป็นฝ่ายมืดเหมือน Vlash และก็เป็นฝ่ายที่แบ่งอำนาจกันปกครอง USA อยู่กับฝ่าย Vlash อยู่ด้วยในปัจจุบันนี้


2).พวกเรา ชาว Starseed และ Lightworker ทั้งหลาย ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารสื่อสารข้ามมิติมาจากต่างมิตินั้น ก็จะมาจาก 3 ฝ่ายนี้เป็นหลัก มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกที่จะเชื่อฝ่ายไหน


ดังนั้น ผมถึงบอกเสมอไงครับว่า ข้อความต่างมิติไม่ได้มาจากฝ่ายแสงสว่างเสมอไป แต่มาจากใครก็ได้ที่สามารถสื่อสารมาถึงผู้รับสาส์นที่จูนเข้ากันได้


และดังนั้น พวกเราจึงกำลังโดนหลอก โดนทดสอบ และโดนล่อลวงกันอยู่ตลอดเวลา และนี่ก็คือบททดสอบสำคัญอย่างหนึ่งที่พวกเราจะต้องฝึกฝนจนเกิดความแข็งแกร่งมากพอ ที่จะสอบผ่านไปให้ได้ ไม่ถูกล่อลวงอีกต่อไปแล้ว


- Starseed ไม่ได้มาจากฝ่ายแสงสว่างเสมอไป แต่ฝ่ายมืดทั้งสองฝ่าย เขาก็ได้ส่งพวกของเขาลงมาเกิดในยุคนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อทำภารกิจของเขา


ดังนั้น ผมเลยไม่แปลกใจเลย ที่ Starseed ที่ผมเคยคุยด้วยบางคน จะออกแนว Dark มากๆ แม้ว่าจะมีความสามารถทางจิตสูงมากก็ตาม


**เพราะฉะนั้น จงระวังให้ดี จงใคร่ครวญดูให้รอบคอบ ก่อนที่จะไปเชื่อ หรือไปตามใคร อย่าตัดสินที่ความสามารถทางจิต หรือการหยั่งรู้ หรือปาฏิหาริย์ที่เขาทำได้แต่เพียงอย่างเดียว เพราะ Starseed ของทั้ง 3 ฝ่ายนี้ ล้วนเก่งกาจเรื่องนี้กันทั้งนั้น 


ให้ดูที่พฤติกรรมและคุณธรรมของเขา และก็อย่าดูที่ Rating หรือจำนวนคน Subscribe ของเขาด้วย ว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพราะว่าแม้แต่ประเทศทั้งประเทศ และศาสนาทั้งศาสนา ก็ยังมีต้นกำเนิดมาจากฝ่ายมืด และถูกบงการด้วยฝ่ายมืดได้เลย นับประสาอะไรกับมนุษย์โลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วย โลภ โกรธ หลง คนหนึ่ง**


4).นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา แผนการต่างๆของฝ่ายมืด ตอนนี้พวกเขาไม่ต้องงุบงิบทำแบบเงียบๆอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าเมื่อพวกเขาสามารถนำเอา AI ใส่ลงไปในร่างกายของชาวโลกกว่า 90% ได้แล้ว (ผ่านทางว๊ากซีน) นับจากนี้ไป ทุกอย่างก็สามารถทำอย่างเปิดเผยได้แล้ว


จุดจบของเรื่องนี้ และทางออกของเรื่องนี้ ผมยังไม่อยากพูดถึงนะครับ แต่ในบทความนี้ภาคภาษาอังกฤษที่เป็นต้นฉบับได้เขียนเอาไว้อยู่นะครับ ลองอ่านดูเอาเองนะครับ


#คำแนะนำของผม Chayutt Naowarat#


1).ตามความเข้าใจของผม ถ้าเป็นข้อความต่างมิติฝ่ายแสงสว่างจริงๆหละก็เขาจะบอกให้เราใช้วิจารณญาณให้จงหนัก ในการรับข้อมูลข่าวสารทุกๆชนิดเสมอ โดยใช้หัวใจนำทาง 


คือให้ใช้สัญชาตญาณหยั่งรู้ของเราเข้าไปสัมผัสมัน แรกๆมันอาจจะผิดบ้างถูกบ้าง แต่ให้ฝึกแยกแยะจนชำนาญ จนไม่ผิดพลาดอีกโน่นแหละ


อย่าใช้ตรรกะ หรือเหตุผลจากสมองนำ ในการตัดสินใจ ให้ใช้ความรู้สึกแว๊บแรกที่ผุดขึ้นมาแทน


2).ข้อความจากต่างมิติในอินเตอร์เน็ตตอนนี้ และรวมถึง Starseed และ Lightworker ที่ออกมาให้ข้อมูลผ่านสื่อต่างๆอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้ มีทั้งที่ได้รับสาส์นมาจากฝ่ายแสงสว่างจริงๆ และมีทั้งที่ถูกล่อลวง หรือถูกหลอกใช้โดยฝ่ายมืดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายด้วย ดังนั้น จงพึงใช้วิจารณญาณให้ดี


รวมถึงข้อมูลข่าวสารจากตัวผมเองก็ด้วยนะครับ เพราะมันอาจจะมีบางส่วนที่ผมไปแปลมาจากฝ่ายมืดก็ได้ เพราะผมเอง และ Starseed / Lightworker ทั้งหลาย ก็แยกแยะได้ไม่ 100% หรอกครับ ว่าอันไหนมันมาจากฝ่ายไหน เพราะพวกเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น


3).ข้อสังเกตเบื้องต้นคือ ถ้าข้อความจากฝ่ายมืดจะมาในแนว ให้ความหวังเราว่าจะมาทำโน่นทำนี่ให้เรา โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเองเลย เช่น เรื่องสุขภาพ การเงิน การยกระดับจิต เป็นต้น


ทำนองว่า ฝึกจิตก็ไม่ต้องฝึกแล้ว ความดีก็ไม่ต้องทำแล้ว เพราะพวกเขากำลังช่วยทำให้ หรือทำแทนอยู่ เป็นต้น 


หรือจะมีใครเอาเงินมาให้จากกองทุนโน้น กองทุนนี้ หรือจากการยึดคืนมาได้จากพวก Illuminati แล้วเอามาแจกจ่ายให้คนทั่วโลก อะไรแบบนั้นเป็นต้น ซึ่งในกรณีหลังนี้ผมเชื่อว่าเป็นฝ่ายมืดนะครับ เพราะเฝ้าดูมาเป็นสิบปีแล้วเหมือนกัน


4).ข้อมูลที่ออกมาขู่ให้กลัว ว่าจะต้องได้รับโทษทัณฑ์สาหัสสากันเพียงใดถ้าไม่ทำตาม เช่น ในข้อบัญญัติทางศาสนาทั้งหลาย บางส่วนนั้นก็มาจากฝ่ายมืด


5).ถ้าเป็นข้อความจากฝ่ายแสงสว่าง จะมุ่งเน้นให้เราเชื่อมต่อกับแก่นแท้ของตัวเองให้ได้ ให้เข้าถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของเราให้ได้ ให้จดจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในฐานะที่เป็นประกายแสงหนึ่งของพระผู้สร้างให้ได้


และให้รู้ว่าโลกทางกายภาพนี้คือมายาการ และมายาการเหล่านี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิดและความเชื่อของคนทั้งโลกด้วย 


และก็เจ้าความเชื่อที่อยู่ในสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกอันนี้แหละ ที่กำลังกักขังพวกเราเอาไว้อยู่ เพราะว่าเราคือผู้สร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองขึ้นมาอยู่ และเราคือผู้ลิขิตชีวิตของเราเอง


เพราะฉะนั้น เราจะต้องเป็นผู้เปลี่ยนแปลงมันเอง ชำระล้างความคิดและความเชื่อที่ไม่ถูกไม่ต้องเหล่านี้ออกไปเอง เพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ กลับคืนสู่จิตเดิมแท้ของตัวเองให้ได้ ไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้


6).อย่าเห็นแก่เงิน อย่าเห็นแก่ลาภ-ยศ-สรรเสริญ จนยอมแลกทุกอย่างแม้แต่อิสรภาพทางจิตวิญญาณของตัวเองไป


เช่น บางคนอยากทำมาค้าขึ้น หรืออยากให้ผัวรักผัวหลง หรืออยากมีชื่อเสียงเงินทอง จนวิ่งไปสักยันต์ หรือไปทำพิธีกรรมกับครูบาอาจารย์สาย Dark บางคน ซึ่งน่าจะอยู่ภายใต้การบงการของฝ่าย Dark หนึ่งในสองกลุ่มนี้ (Vlash และ Maitre)


เพราะถ้าพลาดไปแล้ว มันแก้ยาก หรือแก้ไม่ได้เลย อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ..จริงอยู่แค่ลบรอยสักบนผิวหนังหนะมันลบได้อยู่ แต่การลบพลังงานที่ฝังลึกลงไปจนถึงระดับ DNA และ Akashic Record ของเราแล้วนี่ มันไม่ง่ายเลยนะครับ


สรุป..ให้หลีกเลี่ยงสาย Dark นะครับ อย่าไปรับเพิ่มมาอีก เพราะลำพังความ Dark ที่มีอยู่ในทุกๆภาคส่วนของตัวเรานั้น ก็มากเกินพออยู่แล้ว


ก็..หวังว่าความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆของผมในคราวนี้น่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ


Chayutt Naowarat

Date: 29/04/22

................................


https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5266934516690138&id=100001209252293

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น